อดีตเศรษฐีนีชาวจีนกลายเป็นหนี้กว่า 10 ล้าน เพราะรับเลี้ยงดูเด็กถูกทิ้ง 75 คน พบตัวเองป่วยมะเร็งยังไม่ยอมรักษา เพื่อเก็บเงินมาเลี้ยงเด็ก ๆ พยายามส่งเสียสุดกำลังแม้แบกภาระหนี้เพียบ 

           วันที่ 15 มิถุนายน 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เผยเรื่องราวของนางหลี่ ลี่เจวียน หญิงใจบุญวัย 46 ปี จากเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ที่ชีวิตพลิกผันจากเศรษฐีนีต้องกลายเป็นหนี้ท่วมหัวกว่า 10 ล้านบาท เพราะรับเลี้ยงเด็กกำพร้าถึง 75 คน ในช่วง 19 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเด็กถูกทิ้งเพราะพิการ ที่เหลือเป็นเด็กกำพร้าจากพ่อแม่ที่ประสบอุบัติเหตุจากการทำเหมืองและอุบัติเหตุอื่น ๆ

           ก่อนหน้านี้นางหลี่เคยร่ำรวยถึงขั้นเป็นเศรษฐีจากธุรกิจสิ่งทอที่เธอเป็นเจ้าของและการลงทุนในกิจการเหมือง แต่ในปี 2551 เหมืองมีอันต้องปิดตัวลงเนื่องจากนโยบายพัฒนาชุมชน ทำให้แหล่งรายได้หลักของเธอหายไป นางหลี่พยายามประคองสภาพคล่องของครอบครัวใหญ่ที่เธอดูแลอยู่ด้วยการกู้หนี้นอกระบบ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นหนี้มากมายเช่นในปัจจุบัน แม้เธอจะได้รับเงินช่วยเหลือจากญาติและมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินเข้ามา แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอ และแม้จะมีผู้สนใจรับเด็ก ๆ ที่เธออุปการะอยู่ไปดูแลต่อ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะข้อจำกัดทางกฎหมายที่อนุญาตให้รับอุปการะได้เฉพาะเด็กกำพร้าเท่านั้น และต้องกระทำผ่านศูนย์สังคมสงเคราะห์ของรัฐเพียงอย่างเดียว ทว่าเด็ก ๆ ทั้งหมดนี้ได้รับการลงทะเบียนไปแล้วว่าอยู่ภายใต้การดูแลของเธอแต่เพียงผู้เดียว 
 

           ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เมื่อปี 2554 นางหลี่พบว่าตนป่วยเป็นโรงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่เธอกลับรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพียง 7 วัน ก็รีบออกมา โดยให้เหตุผลว่าค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นสูงเกินไป อยากเก็บเงินจำนวนนี้ไว้เพื่อเด็ก ๆ ที่ดูแลอยู่มากกว่า

           แต่แม้ว่าเธอจะเป็นคุณแม่ที่ใจดีของเด็ก ๆ เหล่านี้ ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางหลี่กับลูกชายแท้ ๆ ของตนเองกลับไม่ราบรื่นนัก เมื่อปี 2547 ลูกชายของเธอเข้าผ่าตัดด้วยอาการเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง แต่นางหลี่ไม่ได้ไปเยี่ยมเขาเลยเพราะวุ่นอยู่กับการพาเด็กที่ดูแลอยู่คนหนึ่งไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลอีกแห่ง ลูกชายนางหลี่ผิดหวังอย่างหนัก หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วยังต้องเข้ารับการรักษาบำบัดอาการซึมเศร้าอีก และจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยมาพบหน้าหรือเยี่ยมนางหลี่อีกเลย นางหลี่ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอรับดูแลเด็ก ๆ มากมายขนาดนี้ ก็เพราะต้องการลบปมในใจเรื่องลูกชายตน

           ในปัจจุบันมีเด็กในอุปการะของนางหลี่ 3 คน ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วและได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในภาครัฐ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เธอชื่นใจไม่น้อย และเป็นกำลังใจให้เธอดิ้นรนหาแหล่งเงินมาจุนเจือต่อชีวิตครอบครัวใหญ่นี้ต่อไป