หากพูดถึงปัญหาความงามที่เกี่ยวกับใบหู คุณสาว ๆ อาจจะนึกถึงความผิดปกติของใบหูแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หูกาง หูพับ หูงอ แต่จะมีใครบ้างหนอ ที่นึกถึงปัญหาคีลอยด์ที่ใบหู ...ถ้าไม่ได้ประสบปัญหานั้นด้วยตนเอง

          คีลอยด์ หรือ แผลเป็นชนิดปูดโปน คือ แผลเป็นที่มีลักษณะนูนและแข็ง หรือเป็นหยุ่น ๆ คล้ายยาง ผิวมัน มองเห็นชัดเจนจากผิวหนังปกติ มีสีแดงเนื่องจากมีเส้นเลือดมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ซึ่งแผลเป็นดังกล่าว นอกจากจะดูน่าเกลียดน่ากลัวแล้ว ยังสร้างความไม่มั่นใจให้กับคนที่เป็นอีกด้วย

          สำหรับคีลอยด์ที่เกิดขึ้นบนใบหูนั้น สาเหตุเกิดจาก การงอกผิดปกติของเนื้อเยื่อผิวหนังส่วนที่อักเสบเป็นแผล ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่เจาะหูมาใหม่ ๆ แผลจะมีลักษณะอักเสบ แดง เหมือนการเกิดบาดแผลปกติ แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ แผลจะค่อย ๆ มีเนื้องอกแข็ง ๆ โตขึ้นมาจนเห็นได้ชัด อาจมีอาการคันร่วมด้วย ทั้งนี้ คีลอยด์ของแต่ละคนจะมีขนาดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อของแต่ละคน บางคนเป็นคีลอยด์ที่ใบหูขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ถั่วลิสง แต่บางคนอาจมีขนาดใหญ่เท่าส้มจี๊ด ส้มเช้ง ไปจนถึงขนาดเท่าลูกมะพร้าวก็มี (น่ากลัวมาก ๆ)

          อย่างไรก็ตาม คีลอยด์ที่ใบหู สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด ซึ่งทำในรายที่มีแผลคีลอยด์ขนาดใหญ่ แต่ก็มีโอกาสที่แผลคีลอยด์จะโตขึ้นมาอีก เนื่องจากการผ่าตัดทำให้เกิดบาดแผลใหม่ และกระตุ้นให้คีลอยด์เกิดมาอีกครั้ง เพราะฉะนั้น หลังผ่าตัดจึงต้องมาฉีดยาสเตียรอยด์เพิ่มใน 1 - 2 สัปดาห์ต่อมา แต่... โอกาสที่แผลคีลอยด์จะโตขึ้นมาใหม่ก็มีเช่นกัน คนไข้จึงควรดูแลรักษาตัวเองอย่างต่อเนื่อง คือ ทำให้แผลเป็นนูนซ้ำช้าที่สุด อาจใช้วิธีการหนีบด้วยอุปกรณ์ที่มีลักษณะป้าน หรือใช้ต่างหูหนีบแป้นใหญ่ ๆ หนีบไว้ที่ใบหู เพื่อให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นน้อยที่สุด ซึ่งสามารถชะลอการเกิดแผลคีลอยด์ได้บ้าง

          สำหรับคนไข้ที่ต้องการผ่าตัดแผลคีลอยท์ที่ใบหู ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดอย่างถี่ถ้วน พร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเลือกศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญการด้านการผ่าตัดคีลอยด์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับการผ่าตัดแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อการฟื้นตัวอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ ไม่ต้องให้ใครมาล้อเรื่องแผลปูดโปนที่ใบหูอีกต่อไป

ข้อมูลจาก

www.kapook.com