เกิดเหตุจลาจลที่เรือนจำในประเทศอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 62 ราย และมีนักโทษรวมถึงผู้ต้องหาก่อการร้าย หลบหนีไปได้หลายสิบคน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุจลาจลขึ้นที่เรือนจำ ในเมือง อัล-คาลิส ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดด เมืองหลวงของประเทศอิรัก ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 80 กม. เมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ค. เป็นเหตุให้มีนักโทษเสียชีวิตราว 50 ราย ตำรวจเสียชีวิตราว 12 นาย และบาดเจ็บอีก 14 นาย ขณะที่มีนักโทษแหกคุกออกไปได้หลายสิบคน

พลจัตวา ซาอัด มาอัน อิบราฮิม โฆษกกระทรวงมหาดไทยแห่งประเทศอิรัก เปิดเผยต่อสำนักข่าว เอพี ว่า การต่อสู้ภายในเรือนจำเริ่มต้นขึ้นในกลุ่มนักโทษ แต่ในขณะที่ผู้คุมเข้าตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหล่านักโทษอาศัยกำลังคนที่มากกว่า จู่โจมและยึดอาวุธของผู้คุม และพยายามหลบหนีออกจากเรือนจำ

พล.จ.อิบราฮิม เผยด้วยว่า นักโทษที่หลบหนีไปบางคนถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้ปิดล้อมพื้นที่ใกล้เคียงเรือนจำแห่งนี้แล้ว เพื่อตามล่าตัวนักโทษที่หลบหนี ด้านนายกเทศมนตรีเมืองคาลิส ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกมาจากบ้านในยามวิกาล

ทั้งนี้ การแหกคุกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นปกติในประเทศอิรัก โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธที่พยายามช่วยเหลือพวกพ้องที่ถูกคุมขัง โดยเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงที่สุดเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2013 เมื่อนักรบติดอาวุธโจมตีเรือนจำ อาบู กราอิบ หรือรู้จักในชื่อ เรือนจำกลางกรุงแบกแดด ทำให้มีนักโทษหลบหนีถึง 500 คน

การแหกคุกครั้งล่าสุดนี้ พล.จ.อิบราฮิม ยืนยันว่า ไม่มีการโจมตีจากภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) ออกแถลงการณ์ผ่านโลกออนไลน์ อ้างว่า พวกเขาเป็นผู้โจมตีเรือนจำโดยใช้ระเบิดแสวงเครื่อง 15 ลูก และช่วยเหลือนักรบหลายสิบคนออกจากเรือนจำได้สำเร็จ.

ขอขอบคุณที่มา  ไทยรัฐออนไลน์