|
หลังจาก โช ฮยุนอา คุณหนูใหญ่แห่งครอบครัว โช ยางโฮ ประธาน สายการบินโคเรียนแอร์ ถูกตัดสินจำคุก 1 ปีในคดีที่อื้อฉาวไปทั่วโลก
ประเด็นที่ผุดตามมาคือการนำร่างกฎหมายว่าด้วยการเอาผิดบุคคลร่ำรวยและทรงอิทธิพลที่กระทำผิด เข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้
มีชื่อทางการว่า "กฎหมายพิเศษเพื่อ การจัดการจริยธรรมบุคคลในบริษัทที่รวมกิจการหลายประเภท" (Conglomerates Ethical Management Special Law) และมีชื่อเรียกย่อๆ ว่า "กฎหมายโชฮยุนอา"
เนื้อหาในกฎหมายมีบทลงโทษสมาชิกในตระกูลธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่มีหลายกิจการรวมกัน หรือที่เรียกว่า "แชโบล" หากกระทำผิดและถูกตัดสินคดีอาญาจะต้องห้ามทำงานในบริษัทอย่างน้อย 5 ปี
คิม ยังนัม จากพรรคแซนูรี แกนนำรัฐบาล ผู้นำเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ กล่าวว่า อยากให้กรณีของโช ฮยุนอา สร้างบรรยากาศที่สมาชิกสภาจะเห็นชอบร่วมกันในเรื่องนี้ เพราะกฎหมายนี้จะช่วยเป็นเครื่องไม้เครื่องมือให้ตำรวจทำคดีได้ จากเดิมที่การรับมือกับตระกูลแชโบลเหล่านี้เป็นไปได้ยากลำบากมาก
โช ฮยุนอา |
อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่าน ความเห็นชอบหรือไม่ เพราะพรรคแซนูรีเองก็สนิทชิดเชื้อกับ กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่
สำหรับคดีโช ฮยุนอา หรือฮีเธอร์ โช อายุ 40 ปี ถูกศาล ในกรุงโซลตัดสินมีความผิดในข้อหาละเมิดระเบียบความปลอดภัยการบิน ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และทำร้ายร่างกายพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
หลังก่อคดีไว้ในวันที่ 5 ธ.ค.2557 ขณะโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบินที่ตนเองเป็นผู้บริหาร จังหวะเครื่องกำลังจะออกจากสนามบินในนครนิวยอร์กกลับเกาหลีใต้
แม้ทนายยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว แต่กระบวนการอุทธรณ์และ ฎีกาใช้เวลานาน ดังนั้นนักธุรกิจหญิงผู้อื้อฉาวอาจอยู่เรือนจำ ไปจนครบปีตามบทลงโทษ ในขณะที่ชาวเกาหลีหลายคนเห็นว่าบทลงโทษนี้ยังน้อยเกินไป หลังจากเหล่าสมาชิกใน ตระกูลร่ำรวยมักได้รอลงอาญา และจากนั้นก็ได้รับอภัยโทษ
ประธานโคเรียนแอร์เครียดหนักกับข่าวฉาว |
สําหรับ โช ฮยุนอา เป็นพี่สาวคนโตในบรรดาลูก 3 คนของประธานโช
จบการศึกษาด้านการจัดการโรงแรม มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ในปี 2542 เข้าทำงานในบริษัทที่คุณปู่ก่อตั้งขึ้น และก้าวหน้าในตำแหน่วอย่างรวดเร็ว จนขึ้นเป็นผู้บริหารในปี 2549 ด้วยวัยเพียง 32 ปี ส่วนน้องชายและน้องสาวขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารตามมาเช่นกัน
คดีที่เหมือนการผลักหญิงสาวจากจุดสูงสุดสู่สามัญ เกิดขึ้นจากการที่พนักงานนำถั่วแม็กคาเดเมีย มาเสิร์ฟโดยไม่ใส่จานหรือถ้วยมาให้สมฐานะ คุณหนูโชจึงเรียกมาดุด่าและลงไม้ลงมือ ต่อพนักงานหนุ่มที่ถูกสั่งให้คุกเข่า ก่อนไล่ตะเพิดลงจากเครื่อง โดยบังคับให้เครื่องย้อนกลับไปลงในจุดที่ไล่ลงไปได้
อารมณ์ฉุนเฉียวไม่ได้ดั่งใจนี้ เป็นเหตุให้ไปกระทบการขึ้นลงของสายการบินอื่น
ทนายความของคุณหนูใหญ่ตั้งใจว่าในการสู้คดีชั้นอุทธรณ์นี้จะเน้นไปที่เรื่องการสั่งให้เครื่องย้อนกลับไปยังจุดไล่พนักงานลง ว่าการย้อนเครื่องดังกล่าวมีระยะเพียงไม่กี่เมตร จึงไม่ส่งผลกระทบมากนัก
แต่ในทางสังคมแล้ว แม้ว่าคุณหนูโชจะพยายามขอโทษสาธารณชนแต่ไม่เป็นผล ทั้งเปิดแผลความขัดแย้งในสังคมที่คนทั่วไปมีต่อตระกูลใหญ่กุมกิจการของประเทศ
แม้ว่าคนรุ่นที่หนึ่งและที่สองของตระกูลจะสร้างชื่อว่าช่วยเกาหลีใต้ปรับสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แต่เมื่อถึงคนรุ่นที่สามของตระกูล มักถูกสังคมมองว่าเป็นเด็กเอาแต่ใจ เพราะถูกตามใจมาตลอด
ร่างกฎหมายล่าสุดนี้จึงอาจได้รับแรงผลักดันจากสังคมเป็นพิเศษ