เตือนดูแลสุขภาพพ่อ ระวังโรคหัวใจ-หลอดเลือดสมอง หลังพบอัตราตายสูง
2014-12-04 18:19:57
Advertisement
คลิก!!!

         เตือนลูกหลานดูแลสุขภาพคุณพ่อ หลังพบผู้สูงอายุชายเสี่ยงโรคหัวใจ -หลอดเลือดสมองมากกว่าเพศหญิง 5 เท่า อัตราการตายสูงเป็นอันดับ 2 ให้ห่างโรคหัวใจ- โรคหลอดเลือดสมอง ขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 1669 มากกว่า 500 คน

        วันนี้ (4 ธ.ค.) นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ช่วง ธ.ค.ถือเป็นเดือนแห่งวันพ่อ สิ่งสำคัญคืออยากให้ลูกๆ ช่วยกันดูแลสุขภาพของพ่อ เพราะจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มผู้สูงอายุชายมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดเป็นอันดับ 2 และมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคนี้มากกว่าเพศหญิงถึง 5 เท่า ทั้งนี้ อาการเบื้องต้นของผู้ที่ป่วยโรคนี้จะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกตรงกลางร้าวไปไหล่ซ้ายและแขนซ้าย และบางรายมีอาการปวดร้าวขึ้นไปตามคอและอาการจะเป็นมากขึ้นเวลาออกแรง เหงื่อออกท่วมตัว ตัวเย็น กระสับกระส่าย และในรายที่มีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบมากจนตันจะทำให้มีอาการขาดเลือดอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ จนเกิดภาวะของกล้ามเนื้อหัวใจตายในที่สุด โดยผู้สูงอายุชายอายุมากกว่า 40 ปี ขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 1669 ด้วยอาการเจ็บแน่นหน้าอกในปี 2557 มากกว่า 500 คน
       
        "โรคนี้เกิดจากความเสื่อมของเส้นเลือดและผลจาดการมีไขมันสะสมของหินปูนไปเกาะที่เส้นเลือดแดงจนทำให้เกิดการอุดตันปริแตกง่าย สำหรับผู้ป่วยหรือบุตรหลานมีพ่อที่ป่วยด้วยโรคนี้อยู่ในบ้าน ควรหมั่นเช็กยาประจำตัวของพ่อไม่ให้หมดและทุกคนในบ้านสามารถทราบตำแหน่งของการเก็บยาที่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย และหากอาการกำเริบควรรีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์" เลขาธิการ สพฉ. กล่าว
       
        นพ.อนุชา กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมอง(STROKE) ถือเป็นหนึ่งในโรคฉุกเฉิน ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุชาย ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองคือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย การทำงานของสมองหยุดชะงัก โดยผู้ป่วยด้วยโรคนี้จะมีอาการแขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน มึนงง วิงเวียน ทรงตัวไม่ได้ ใบหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ ซึ่งส่วนมากทุกอาการจะเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างฉับพลัน ดังนั้นผู้พบเห็นต้องรีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ โทรสายด่วน 1669 เพื่อนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างทันที โดยต้องระลึกเสมอว่าการรักษาผู้ป่วยโรคนี้จะต้องรีบส่งเข้ารักษาภายในเวลา3 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยจะลดอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หรือพิการ อย่างไรก็ตามการดูแลพ่อไม่ให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง คือต้องควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ส่งเสริมให้หลอดเลือดเกิดการตีบ อุดตัน หรือแตก ดังนั้น ต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควบคุมอาหารให้สมดุล หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม หวาน มัน งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และควรตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง


ที่มา  http://www.manager.co.th/

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X