4 พฤศจิกายน 2557 ณ เอสเอฟเวิลด์ ซีเนม่า มีกำหนดการฉายภาพยนตร์ญี่ปุ่นฟอร์มยักษ์เรื่อง“รูโรนิ เคนชิน คนจริง โคตรซามูไร” หรือ Rurouni Kenshin 3: The Legend Ends (ภาค 3) ในรอบพิเศษ ซึ่งเป็นภาคต่อจากภาพยนตร์เรื่อง Rurouni Kenshin ที่เข้าฉายไปเมื่อปีที่แล้วและภาค 2 รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง ที่เข้าฉายไปก่อนหน้านี้วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาค่ะ
 

หลังจากที่เราแฮปปี้กับตัวหนังในภาคสองที่ผ่านมาไปแล้ว ก็คิดว่าในภาคจบนี้ผู้เขียนรีวิวรู้สึกว่าต้องไม่ผิดหวังในตัวหนังแน่นอน เพราะตัวละครที่หลายคนรอคอยที่จะได้เห็น อย่างเช่นอาจารย์คนแรกของเคนชิน ที่นำแสดงโดย (อดีตท่านเรียวมะ) ฟุคุยามะ มาซาฮารุ ที่โผล่มาแค่ครึ่งตัวในภาคที่แล้วก็มีบทบาทค่อนข้างเยอะทีเดียว และยังคงดูเท่สมบทบาทไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนบทนางเอกของเรื่องนี้ที่นำแสดงโดย เอมิ ทาเคอิ ถึงจะบทน้อยไปหน่อยและบางฉากที่มีภาพออกมาให้เห็นในอินเตอร์เนตก่อนหน้านี้ ก็ดันไม่มีซะงั้น เสียดายจริงๆ ค่ะ
 

สำหรับภาคนี้ เคนชินที่คิดอยู่เสมอว่าตัวเองนั้นถึงแม้จะตายไปก็ไม่เป็นไร เพราะบาดแผลจากการที่เค้าได้ขึ้นชื่อว่าฆ่าคนมานับไม่ถ้วน แค่ได้หยุดการกระทำอันเลวร้ายของชิชิโอะได้ก็พอ เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือบ้านเมืองในยุคใหม่ให้สงบสุขต่อไป แต่ถึงแม้จะบอกว่า “ตายไปก็ไม่เป็นไร” เอาเข้าจริงๆ พอความตายเฉียดเข้ามาใกล้จนสุดขีดแล้ว ความอยากที่จะมีชีวิตยู่ต่อไปมันก็ผุดขึ้นมา นี่แหละมนุษย์ มัวเอาอดีตมาคิดจนลืมนึกถึงอนาคต!!
 

ภาคจบนี้เน้นไปที่ฉากแอ็คชั่นเต็มๆ ทั้ง รวดเร็ว คล่องแคล่ว แต่ดูรู้เรื่องนะ ไม่ใช่แว่บไปแว่บมา ขอชื่นชมนักแสดงและทีมงานของเค้าจริงๆ จนลืมคิดไปว่านี่สร้างมาจาการ์ตูนอ่ะ คิดว่าฉากแอ็คชั่นของเค้าพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นแล้วสินะ วงการหนังญี่ปุ่นเนี่ย! 
 

มาถึงฉากระหว่างพระเอก นางเอกกันบ้าง ก็ต้องเข้าใจว่าเค้าเน้นไปที่การฟาดฟันของรุ่นพี่รุ่นน้องนักฆ่ากันมากกว่า ก็เลยมีแค่ภาคละหนึ่งฉากเท่านั้นแหละค่ะ มีเยอะกว่านี้ก็ไม่ได้ คนดูจะได้ฟินกันมากกว่านี้หน่อย แต่โดยรวมก็ถือว่าตอนจบทำให้รอบพิเศษในวันนั้น ถึงขั้นกับปรบมือกันอย่างกึกก้องกันเลยทีเดียว!
 

สำหรับภาคจบนี้ สหมงคลฟิมล์ ได้จัดรอบเสียงญี่ปุ่น ซับไทยและอังกฤษ เอาใจคอหนังญี่ปุ่นตัวจริงโดยเฉพาะอรรถรสมาเต็มได้ฟังเสียงนักแสดงจริงๆ และผู้เขียนรีวิวไม่พลาดที่จะรอฟังเพลงประกอบจากวง วันโอคุ จนจบเพลง สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณอาจารย์ โนบุฮิโระ วาสึกิ ผู้สร้างสรรค์มังงะเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้ดูหนังสนุกๆ แบบนี้แน่ๆ เลยค่ะ

เรื่องโดย :ทีมงาน www.marumura.com

ที่มา  http://www.marumura.com/