“บุ๋ม” ย้ำ สัมพันธ์ “ติ้งโน้ต” ยังไม่มีอะไรดีขึ้น บอกถ้ากลับมาแล้วเป็นเหมือนเดิมก็ไม่เอา คุยฟุ้งพอข่าวเลิกออกไป มีทั้งพระเอก-ทอม รุมจีบ บอกต่อไปคบใครจะเว้นระยะห่างให้มาก ไม่เข้าใกล้ใครง่ายๆ อีกแล้ว พร้อมเผยควัก 50 ล้าน เปิดร้านเวดดิ้ง

หลังจากที่นางงามสาว “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ออกมาประกาศว่าได้เลิก “ติ้งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร” แล้ว แต่ไม่สนิท เนื่องจากยังอยากให้โอกาสแก้ตัวเฮือกสุดท้าย แต่ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้นก็ต้องต่างคนต่างไป หลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่า แล้วอย่างนี้จะมีผลกับ “น้องอันดามัน” ลูกสาวของบุ๋มหรือไม่ เพราะตอนที่ยังรักกันดีลูกสาวติดติ๊งโน้ตมาก ซึ่งบุ๋มก็แจงว่า...

“คือ น้องไปอยู่ที่บ้านของติ้งโน้ตบ่อยก็จริง แต่ว่าน้องเป็นคนที่ปรับตัวง่าย เขาเอาแม่เป็นหลักอยู่แล้ว แม่อยู่ไหนเขาก็อยู่นั่นค่ะ เแม่ของติ้งโน้ตก็ยังถามถึงน้องอันดามัน ก็กะว่าถ้าว่างก็จะไปหา เพราะว่ามอเตอร์ไซค์ก็ยังทำกันอยู่นะ เพียงแต่ว่าต่างคนต่างก็เดินทางของตัวเองเท่านั้นค่ะ”

“ก็บอกเขาว่าถ้าทำเหมือนเดิมมันก็เหมือนเดิม บางคนบอกว่าพี่ทำใจร้ายไปหรือเปล่า แต่บางทีมันไม่ใช่เรื่องที่จะคุยออกนอกจอได้ เรื่องส่วนตัวมันก็มี เพราะฉะนั้นถ้าในจุดนั้นแล้วมันทำให้เขาโตขึ้น แล้วเรายังเป็นกำลังใจให้เขาไปแข่งในต่างประเทศได้ เราว่าเราอยู่ตรงจุดนี้ดีกว่า”

“ถามว่า จะกลับมาประสานกันใหม่ได้มั้ย ก็คงได้ แต่จะให้ประสานแล้ว กลับมาแบบไหน คงไม่ใช่แบบเดิมแน่นอน ถ้ากลับมาแล้วเป็นแบบเดิมเราไม่ชอบค่ะ มันมีเรื่องมีราวมากกว่านั้น ที่ไม่สามารถพูดได้ พูดไปมันก็ไม่เหมาะ ตอนนี้เขาก็ยังเข้าหน้าแม่เรายังไม่ติดเลยนะ แต่เขาก็พยายามหาโอกาสที่จะเข้าหาอยู่ แต่ว่าก็เห็นโอกาสยังน้อยอยู่ พูดตรงๆ ว่ายากนะ อีกอย่างเราก็ต้องเอาพ่อแม่เป็นหลัก ไม่ใช่จะหลับหูหลับตา มันไม่เหมาะ ช่วยพูดก็ไม่เลย หลักฐานคาตาขนาดนั้น เราช่วยอะไรไม่ได้เลย”

เผยตั้งแต่มีข่าวออกไปว่าเลิกกัน ก็มีพระเอก-ทอมมาจีบเพียบ แต่ยังไม่เซย์เยส

“ถามว่า มีคนจีบมั้ย บอกได้เลยว่า เยอะมากจริงๆ ล่าสุด มีทอมมาจีบ เราก็คุยว่ามาเป็นแฟนคลับได้ค่ะ เขาก็บอกว่าไม่เอาจะเอาเป็นแฟนจริงๆ ไม่คิดเปลี่ยนแนวค่ะ เราเป็นทอมมากกว่า แต่ยังไม่มีใครที่มาวิน เราก็ไม่เข็ดกับอายุน้อยๆ นะ เพราะตอนนี้คนอายุน้อยก็มีมาจีบ”

“ในวงการก็มีค่ะ ระดับพระเอกก็มีค่ะ ขาวๆ เรื่อยๆ ค่ะ แต่มันไม่มีอะไรมาก กลัวเป็นข่าวคุยห่างๆ พอแล้ว นัดไปกินข้าวข้างนอกไม่มี แต่กินข้าวในกองถ่ายก็มี เขาไม่มีไปรับไปส่ง แต่วันนั้นรถเสีย เขาก็จะไปส่ง เราก็บอกอย่าเลย ต่อไปจะคบกับใครเราจะเว้นระยะห่างให้มาก ไม่เข้าใกล้ใครง่ายๆ อีกแล้ว”

“ซึ่งเรื่องนี้ติ๊งโน้ตเขารู้แล้ว เขาก็ไม่แฮปปี้ เขาเปิดมือถือดูอยู่ ซึ่งเราก็ไม่แฮปปี้ เพราะเราไม่เคยเปิดดูของเขา เพราะว่าเรายังถือว่าเรายังคบกันในฐานะคำว่าแฟน ยังใช้คำว่าแฟนค่ะ แต่เป็นแฟนที่ให้คุณไปทำงานของตัวเอง ไม่ต้องมาดูแลฉันมากมายขนาดนี้ เพราะว่าเวลาที่ฉันต้องการคนมาดูแล ทำไมคุณไม่มา อารมณ์แค่นี้แหละ”

“คือ อยากให้เขาให้ความสำคัญให้ถูกต้อง จริงๆ แล้วคนที่ยืนอยู่ข้างกันควรจะเป็นแบบไหน วันสำคัญกลับไม่อยู่ ไม่ใช่ว่าวันทุกวันฉันจะต้องปัญญาอ่อน มันไม่ใช่ ก็บอกเขาว่า ถ้าวันไหนเจอคนที่อยู่ คุยเป็นเพื่อนเป็นอะไรได้มากกว่าเรา เชิญ”

แม้เรื่องความรักจะดิ่งลงเหวไม่ค่อยสมหวัง แต่ขอบอกว่าเรื่องงาน “บุ๋ม” ไม่เคยขาดมือ ล่าสุดลงทุนควัก50 ล้าน เปิดธุรกิจร้านเวดดิ้งเองคนเดียว

“ใช่ค่ะ ในส่วนของเวดดิ้งก็ทำไปเรื่อยๆ ค่ะ แล้วเราเองจะเข้าไปอยู่ที่นั่นด้วย เป็นบ้านด้วยเลย เป็นออฟฟิศ ก็เลยให้เขารื้อระบบไฟใหม่หมดเลย เพราะว่าลูกต้องไปอยู่ที่นั่นด้วย อยู่ตรงแยกนวลจันทร์ ลงทุนคะ เพราะว่าเราก็ทำเรื่องอสังหาริมทรัพย์ไว้เยอะ ก็เอาไม่เป็นไร ถ้ายังไงก็ยังมีบ้าน เพราะว่าเราทำเป็นบ้านด้วย ก็อยู่กับลูกดีกว่า จะต้องมารื้อ มาซ่อมอีกหลายๆ ครั้ง อันนั้นจะเสียค่าใช้จ่ายที่เยอะกว่า”

http://www.manager.co.th