ขวัญใจคนเก่า "คิมฮีซอน" คืนจอแก้ว

นักแสดงสาวชาวเกาหลีใต้ ที่โด่งเมื่อช่วงแรก ๆ ของกระแสวงการบันเทิงแดนโสม ได้โอกาสคืนจอโทรทัศน์ในรอบ 6 ปี กับซีรีส์ย้อนยุคย้อนเวลา Faith ที่เธอจะได้ร่วมงานกับซูเปอร์สตาร์หนุ่ม "อีมินโฮ" ด้วย

คิมฮีซอน เป็นดาราสาวที่โด่งดังจากหนังเกาหลีรุ่นแรก ๆ ที่บุกตลาดประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหนังกำลังภายในสไตล์กิมจิอย่างBichunmoo, Wanee & Junahหนังรักที่หลายคนยังประทับใจ, รวมถึงเคยโดดไปรับงานหนังจีน เป็นนางเอกของ เฉินหลง ใน The Myth ด้วย

แต่เธอกลับหายหน้าหายตาจากวงการไปหลายปี หลังเข้าพิธีแต่งงานในปี 2007 จนกระทั่งเพิ่งจะมีกลับมารับงานเมื่อปีก่อน กับหนังจีนเรื่อง The Warring States และในปีนี้เธอจึงได้มีโอกาสกลับมารับงานในบ้านเกิดอีกครั้ง นอกจากนั้นยังเป็นการหวนคืนสู่งานโทรทัศน์ครั้งแรกในรอบ 6 ปีด้วย

ในซีรีส์เรื่อง Faith ของ SBS คิมฮีซอน จะสวมบทบาทเป็นแพทย์ศัลยกรรมพลาสติก ที่ได้เดินทางย้อนเวลากลับไปเมื่อ 700 ปีก่อน และได้พบกับหนุ่มนักรบที่จะสวมบทบาทโดย อีมินโฮ

ในการกลับมารับงานซีรีส์อีกครั้ง คิมฮีซอน ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ The Chosun Ilbo ถึงผลงานชิ้นนี้ และมุมมองของเธอในวันนี้ต่องานในวงการบันเทิง

"ก่อนที่จะแต่งงาน (ในปี 2007) ฉันพบว่าตัวเองใช้ชีวิตอยู่กับหน้ากล้องตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ หรือโฆษณา ไม่มีเวลาแม้แต่จะได้ทำความเข้าใจกับบทที่ฉันต้องแสดง ... มีกระแสวิจารณ์ในแง่ลบถึงฝีมือการแสดงของฉันออกมาเยอะ เลยคิดว่าขอพักดีกว่า อยากจะได้แสดงในบทที่ฉันต้องการจริง ๆ และในซีรีส์ที่ฉันอยากมีส่วนร่วมด้วย มันจะเป็นงานที่มีความหมายมากกว่าค่ะ"

คิมฮีซอน ยังบอกอีกว่าหลังเธอให้กำเนิดลูกสาวเมื่อต้นปี 2009 ต้องรอคอยมาถึงตอนนี้เธอจึงจะพอจะหาเวลาว่างได้ และสามารถกลับมาสานต่องานในวงการได้ในที่สุด

"ฉันพบว่าตัวเองพอจะหาเวลาว่างมานั่งดูซีรีส์ได้ หลังสามีไปทำงาน ลูกก็ไปโรงเรียนอนุบาล จนจู่ ๆ ก็มีความรู้สึกว่าตอนนี้ฉันอาจจะได้ทำหน้าที่ต่าง ๆ เสร็จสิ้นแล้ว พอดีกับที่มีข้อเสนอมาจากเอเยนซีหลาย ๆ แห่ง ถามว่าฉันอยากจะกลับไปรับงานรึเปล่า จังหวะเวลามันพอเหมาะพอเจาะมาก ๆ ค่ะ"

สำหรับแผนการในอนาคตนั้น คิมฮีซอน บอกว่าเธอคงจะไม่ทิ้งวงการบันเทิงไปไหน แต่จุดยืนคงจะแตกต่างออกไป จากสมัยที่เข้าวงการมา และมีชื่อเสียงใหม่ ๆ

"ฉันคิดว่าตัวเองหมดเวลาสำหรับเรื่องความหรูหราเก๋ไก๋ของการเป็นคนดังจากวงการบันเทิงไปแล้วค่ะ ตอนนี้อยากจะให้ความสำคัญไปกับการพัฒนาตัวเอง เป็นนักแสดงที่มีฝีมือดีขึ้นมากกว่า"

"ฉันเคยถูกครอบงำด้วยความวิตกกังวล กับเรื่องความคิดเห็นของคนอื่นที่มีต่อตัวฉัน เลยพยายามปิดบังการแสดงออกความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ แต่ตอนนี้ฉันเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นค่ะ ตอนนี้หวังว่าตัวเองอาจจะแสดงเป็นตัวร้ายก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยได้ทำเลย" ดาราวัย 35 ปี กล่าว

ข้อมูลจาก

http://www.manager.co.th