สุดยี้! คนไทยอึเสร็จ 88% ไม่ล้างมือด้วยสบู่ เสี่ยงรับเชื้อ
2014-10-15 15:40:36
Advertisement
คลิก!!!

        สุดยี้! ผลสำรวจพบคนไทย 88% ไม่ล้างมือด้วยสบู่หลังปลดหนัก เสี่ยงรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เผย 9 เดือนป่วยแล้วกว่า 1.3 ล้านคน ชี้อึ 1 กรัม มีแบคทีเรีย 1 ล้านตัว ไวรัสอีก 10 ล้านตัว รณรงค์ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง ย้ำที่สาธารณะห้ามใช้ผ้าเช็ดมือร่วมกัน เหตุบางคนไม่ล้างสบู่ เชื้ออาจสะสมที่ผ้า แนะใช้เครื่องเป่ามือ กระดาษเช็ดมือแทน


       นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า องค์การยูนิเซฟระบุว่าในแต่ละปีมีเด็กทั่วโลกอายุต่ำกว่า 5 ขวบป่วยและตายจากโรคอุจจาระร่วงถึง 3.5 ล้านคน ปอดบวม 2 ล้านคน ซึ่งผลวิจัยทั่วโลกยืนยันตรงกันว่าการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ที่ถูกวิธีช่วยลดการตายจากโรคอุจจาระร่วงได้ 50% ปอดบวม 25% และผลการศึกษาในสหรัฐฯ พบว่า ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ถูกวิธี 15 วินาที ลดการติดเชื้อได้ถึง 90% สหประชาชาติ (UN) จึงกำหนดให้วันที่ 15 ต.ค.ของทุกปีเป็นวันล้างมือโลก เพื่อรณรงค์ให้ความสำคัญกับการล้างมือ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ลดป่วยตายจากโรคติดเชื้อสำคัญ ส่วนประเทศไทยเน้น "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือด้วยน้ำและสบู่" เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ซึ่งกว่า 90% โรคที่คนไทยป่วยสามารถป้องกันได้
       
       "มือเป็นอวัยวะสำคัญนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายที่สุด ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส โรคที่มักป่วยเป็นอันดับต้นๆ คือ ไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วง ตาแดง และอีสุกอีใส เชื้อโรคจะอยู่ในสารคัดหลั่งทั้งน้ำมูก น้ำลาย ในอุจจาระ ซึ่งในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ทั่วประเทศมีผู้ป่วย 4 โรครวมกันจำนวน 1.3 ล้านราย เสียชีวิต 65 ราย ใกล้เคียงกับตลอดปี 2556 คาดว่าสิ้นปีจำนวนจะสูงกว่าแน่นอน ขณะที่พฤติกรรมการล้างมือน่าเป็นห่วง จากการสำรวจคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป เมื่อ มิ.ย.-ก.ค. 2557 พบว่า ไม่ล้างมือด้วยสบู่หลังขับถ่ายสูงถึงร้อยละ 88 จึงมีโอกาสติดเชื้อโรคสูงขึ้น" ปลัด สธ. กล่าว
       
       นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ผลการศึกษาในต่างประเทศพบว่าในอุจจาระคน ขนาดน้ำหนัก 1 กรัม จะมีเชื้อแบคทีเรียอยู่ 1 ล้านตัวและมีเชื้อไวรัสมากถึง 10 ล้านตัว หากมีอุจจาระติดมือ เชื้อโรคก็จะติดมาด้วย และมีโอกาสก่อโรคได้ตลอดเวลา จึงได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ รณรงค์ปลูกฝังให้ประชาชนล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้ง ให้ติดเป็นนิสัย เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดและคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ ซึ่งให้ผลประมาณ 90%
       
       นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในที่สาธารณะ เช่น ปั้มน้ำมัน โรงพยาบาล ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าเช็ดมือรวม ควรใช้กระดาษเช็ดมือ หรือเครื่องเป่าลมแทน เนื่องจากการล้างมือด้วยน้ำธรรมดาอย่างเดียว ไม่ได้ฟอกสบู่ จะมีผลเพียงลดคราบสกปรก ฝุ่นละอองเท่านั้น แต่เชื้อโรคยังมีเหมือนเดิม หากไปใช้ผ้าเช็ดมือรวมจะเป็นการเอาเชื้อโรคไปติดฝังอยู่ที่ผ้าเช็ดมือ เมื่อผู้ที่ล้างมือและฟอกสบู่ด้วยไปเช็ดต่อก็จะมีโอกาสสัมผัสเชื้อที่ผ้าไปด้วย ในระดับครอบครัว ควรปลูกฝังการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง คือ 1.ก่อนกินอาหาร 2.ก่อนและหลังเตรียมปรุงอาหาร 3.หลังเข้าห้องส้วม 4.หลังสัมผัสสิ่งสกปรก เช่น ไอ จาม สั่งน้ำมูก 5.หลังทำความสะอาด 6.หลังสัมผัสสัตว์ 7.หลังออกไปปฏิบัติภารกิจนอกบ้าน และ 8.หลังสัมผัสสิ่งของที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น ลิฟท์ ราวบันได ลูกบิดประตู เป็นต้น เนื่องจากเป็นจุดสะสมเชื้อโรคไว้มาก ทั้งนี้ การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทั่วไปเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ฆ่าเชื้อ ส่วนอ่างล้างมือควรระบายน้ำได้ดีและต้องไม่มีน้ำขังในจุดวางสบู่ หากไม่มีน้ำล้างอาจใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือแทนได้


ที่มา  http://www.manager.co.th/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X