สธ.ประกาศเฝ้าระวังโรคอีโบลาเพิ่ม "เมืองเอกาเตอร์" เล็งส่งทีมช่วยเหลือแอฟริกา หาก ครม.มีมติ
2014-10-13 19:45:34
Advertisement
คลิก!!!

        สธ.ประกาศเมือง "เอกาเตอร์" ดิอาร์คองโก เป็นพื้นที่ติดโรคอีโบลาตาม WHO ต้องเฝ้าระวังคนเดินทางเข้าประเทศรวมเป็น 3 ประเทศ 2 เมือง เตรียมจัดทีมประเมินความพร้อมส่งไปแอฟริกาทันที หาก ครม.มีมติเห็นชอบให้ความช่วยเหลือเรื่องใดบ้าง

        วันนี้ (13 ต.ค.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจาก สธ.ได้ลงออกประกาศพื้นที่ระบาดของโรคติดเชื้ออีโบลาเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2557 ใน 3 ประเทศ คือ ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกินี รวมถึง 1 เมืองคือ เมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย ล่าสุด ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มพื้นที่ระบาดของโรคอีโบลาอีก 1 ประเทศคือ เมืองเอกาเตอร์ (Equateur) สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หรือดิอาร์คองโก ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2523 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันถัดไปหลังจากประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหลังจากนี้มาตรการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีโรคอีโบลาจะเพิ่มพื้นที่เมืองนี้ด้วย รวมเป็น 3 ประเทศ และ 2 เมือง โดยที่กล่าวมาที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศทุกช่องทางทั้งทางบก ทางอากาศ ทางเรือมีการตรวจทุกด่านทุกวัน จนถึงวันนี้ไทยยังไม่พบผู้ป่วยโรคอีโบลา
       
       นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. - 8 ต.ค. มีผู้ป่วยโรคอีโบลารวม 8,376 ราย เสียชีวิต 4,024 ราย โดยผู้ป่วยครึ่งหนึ่งป่วยในช่วง 21 วันมานี้ โดยเฉพาะไลบีเรียวิกฤตที่สุด มีผู้ป่วยรายใหม่ 2,091 ราย และที่เซียร์ราลีโอนมีผู้ป่วย 1,000 กว่าราย ขณะที่เตียงนอนในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ ทำให้การควบคุมโรคยากลำบากขึ้น และยังมีประเทศที่พบผู้ติดเชื้อคือที่สหรัฐอเมริกา สเปน โดยผู้ติดเชื้อเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย เบื้องต้นพบจุดอ่อนที่ทำให้ติดเชื้อคือขั้นตอนการถอดชุดป้องกันโรค ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ไทยต้องเร่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลของไทยทั้งรัฐ เอกชน ให้ดำเนินการตามแนวทางการป้องกันการติดเชื้อที่ได้กำหนดไว้แล้วให้เกิดความเข้มแข็งและความมั่นใจในการดูแลหากมีผู้ติดเชื้อในประเทศ ตั้งแต่จุดรับผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ตลอดจนถึงผู้ดูแลห้องเก็บศพ
       
       "ในระยะเร่งด่วนนี้ ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยจังหวัดที่มีด่านเข้าออกระหว่างประเทศ หรือมีสนามบินนานาชาติรวม 30 จังหวัด เน้นหนัก 3 มาตรการประกอบด้วย การป้องกันโรค การค้นหาโรคและผู้ป่วย และการดูแลรักษาพยาบาล สำหรับการเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือประเทศระบาดที่แอฟริกาตะวันตกตามคำร้องขอขององค์การอนามัยโลก จากการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก สธ. ได้วางแผนการช่วยเหลือ เบื้องต้นได้มอบให้กรมควบคุมโรค (คร.) และสำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉิน ประสานจัดเตรียมทีมสำหรับประเมินความพร้อมไว้ 1 ทีมประมาณ 5-10 คน หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ความช่วยเหลือในเรื่องใด ก็จะส่งทีมนี้เดินทางไปประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ก่อน เพื่อวางแผนการช่วยเหลือในขั้นต่อไปอย่างรัดกุมที่สุด" ปลัด สธ. กล่าว
       
       ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. กล่าวว่า ผลการตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาด จนถึงขณะนี้ได้ตรวจไปแล้ว 2,103 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่ คร.จะเพิ่มการเฝ้าระวังเพิ่มเติมคือจุดที่มีชาวแอฟริกาจากเขตติดโรคอาศัยอยู่ ซึ่งมี 2 แห่งคือจันทบุรีและเขตบางรัก กทม. ได้วางแผนเฝ้าระวังอย่างรัดกุม โดยจัดผู้ประสานงานให้ อสม.ช่วยดูแล ประชุมให้ความรู้แก่คลินิก โรงพยาบาลทั้งรัฐเอกชน และร้านขายยา ที่อยู่ใกล้ชุมชนทั้ง 2 แห่งนี้ ขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังเมื่อมีชาวอาฟริกาป่วยและเข้าไปใช้บริการ รวมถึงผลิตสื่อต่างๆ ในการให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ ได้ร่วมมือกับศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา 5 เรื่อง ได้แก่ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานกับโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา การจัดการอบรมบุคลากรการจัดหาชุดทดสอบเชื้อในภาคสนาม (Test Kit) เพิ่มความรวดเร็วในการตรวจหาเชื้อ การสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อและการเผยแพร่รายงานสถานการณ์ประจำวันของสำนักระบาดวิทยา เพื่อเป็นตัวอย่างในการเฝ้าระวังป้องกันโรคของไทยแก่ทั่วโลกด้วย
       
       นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า การประกาศ เพิ่มพื้นที่ระบาดของโรคระบาดไวรัสอีโบลาอีก 1 ประเทศ คือ ที่เมืองเอกาเตอร์ ดิอาร์คองโก เป็นไปตามประกาศขององค์การอนามัยโลก ซึ่งพบว่าการระบาดในเมืองดังกล่าว เป็นเชื้อคนละสายพันธุ์กับการระบาดของอีก 3 ประเทศ และพื้นที่ที่เมืองเอกาเตอร์ ถือว่าอยู่ห่างไกลจากพื้นที่ระบาดขณะนี้กว่าพันกิโลเมตร ซึ่งอีโบลา ถือเป็นโรคประจำถิ่นในทวีปแอฟริกาอยู่แล้ว ซึ่งการประกาศดังกล่าวเป็นการทำเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจสามารถคัดกรองผู้โดยสารและดำเนินมาตรการควบคุมโรคได้ ส่วนการพบผู้ติดเชื้อในประเทศสหรัฐและสเปนนั้น ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การอนามัยโลกจะยึดการประกาศพื้นที่ระบาดจากการติดเชื้ออย่างต่อเนื่องเป็นสำคัญ


ที่มา  http://www.manager.co.th/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X