20 ปีผ่านไป เจิ้งเส้าชิว (Adam Cheng) จาก "เจ้าพ่อตลาดหุ้น" ยังหลอกหลอนนักลงทุน
2012-07-02 21:22:29
Advertisement
คลิก!!!

ถือเป็นปรากฏการณ์ที่นักเล่นหุ้นฮ่องกงทุกคนคุ้นเคยกันดี และระมัดระวังเป็นพิเศษสำหรับ "ติงไห่เอฟเฟค" กับการแพร่ภาพของซีรีส์ที่นำแสดงโดย "เจิ้งเส้าชิว" (Adam Cheng) ทุกๆเรื่อง เป็นอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นหลังจาก "เจ้าพ่อตลาดหุ้น" (The Greed of Man / ??? / ??? / Dai Shi Dui / Da Shi Dai) เข้าฉายในเวลาเดียวกับที่ตลาดหุ้นฮ่องกงเรื่อง หลังจากนั้นเมื่อใดที่ซีรีส์ของ "เจิ้งเส้าชิว" เริ่มแพร่ภาพ ดัชนีฮั่นเซ็งก็อยู่ในภาวะอันตรายทันที

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายปรากฏการณ์ประจำปีไปแล้ว สำหรับซีรีส์เกือบทุกเรื่องของนักแสดงชาวฮ่องกง เจิ้งเส้าชิว ที่มักจะออกฉายพร้อมๆกับการดิ่งลงของตลาดหุ้นฮ่องกง หลัง "เจ้าพ่อตลาดหุ้น" ซีรีส์สุดดังของเขาออกแพร่ภาพสร้างความฮือฮาเมื่อ 20 ปีก่อน บางคนบอกว่ามันคือคือคำสาปอาถรรพ์, บางคนบอกว่าเป็นเรื่องโชคลาง ขณะที่บางคนมองว่าเป็นเรื่องของจิตวิทยา และอีกจำนวนไม่น้อยที่มองว่าเป็นความบังเอิญเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในปีนี้ เมื่อนักแสดงวัย 65 ปี กำลังมีผลงานเรื่อง Master of Play เริ่มต้นแพร่ภาพในปลายเดือน มิ.ย. เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่นักเล่นหุ้นทุกคนก็ต้องกลั่นหายใจลุ้นกันไปตามๆกัน

โดยบริษัทโบรกเกอร์ดัง CLSA ได้ให้ข้อมูลตัวเลขที่เก็บกันมาในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมากับซีรีส์ถึง 18 เรื่องว่าเมื่อใดที่ผลงานของ เจิ้งเส้าชิว ออกอากาศจะมีโอกาสที่หุ้นจะตกอยู่ที่ 70% โดยในแต่ละครั้งหุ้นจะตกลงประมาณ 6.6%

แม้ส่วนใหญ่จะมองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น แต่นักลงทุนในฮ่องกงหลายคนต่างระมัดระวังกับเรื่องนี้ อย่างที่นักเขียนของ CLSA บอกว่าอย่าประมาท "เจิ้งเส้าชิว เอฟเฟค" หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า "ติงไห่ เอฟเฟค" (Ting Hai effect / Adam Cheng effect / Chiu-Koon effect / ???? / ????) อย่างเด็ดขาด

ติงไห่ ก็คือตัวละครของ "เจิ้งเส้าชิว" ในซีรีส์ดัง The Greed of Man หรือ "เจ้าพ่อตลาดหุ้น" งานที่เล่าเรื่องราวอันประกอบไปด้วยตัวละครมากมาย ผ่านช่วงเวลาถึง 3 ทศวรรษ ในการเล่าบรรยายถึงความเปลี่ยนแปลง และเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจของฮ่องกง ทั้งความรุ่งเรือง และตกต่ำ รวมถึงด้านที่ฉ้อฉล เกี่ยวพันกับด้านมืดขององค์กรอาชญากรรมนอกกฎหมาย ด้วย

โดย ติงไห่ ชายที่เติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน เป็นบุคคลไร้การศึกษา ที่ยึดมั่นอยู่กับแต่ตัวเอง แก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยความรุนแรงถ่อยเถื่อน และบังคับขู่เข็ญผู้อื่น ซึ่งแม้จะไม่ได้มีสติปัญญาฉลาดเฉลียวอะไรนัก แต่เขากลับมีโชคในทางหุ้นอย่างเหลือเชื่อ โดย เจ้าพ่อตลาดหุ้น ถือว่าเป็นซีรีส์ที่โด่งดังคลาสสิกที่สุดเรื่องหนึ่งในยุค 90s ของ ทีวีบี, เป็นซีรีส์ในดวงใจของใครๆหลายคน และตัวละคร ติงไห่ ก็เป็นบทเด่นติดตัวอยู่กับ เจิ้งเส้าชิว ในระดับเดียวกับ "ชอลิ้วเฮียง" ก็ว่าได้

ซึ่งเมื่อออกอากาศครั้งแรก The Greed of Man ก็สร้างความฮือฮาได้ทันที ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน และเต็มไปด้วยทีมนักแสดงชั้นยอด เนื้อเรื่องก็เกี่ยวข้องกับความร่ำรวยของตระกูล "ติง" ในช่วงที่ตลาดหุ้นเกิดความแปรผันมากมาย และผู้คนส่วนใหญ่ต้องหมดเนื้อหมดตัว เป็นเนื้อหาที่น่าจะโดนใจชาวฮ่องกงในช่วงเวลานั้นทุกคน

แต่ผลกระทบของ The Greed of Man กับเศรษฐกิจและระบบการเงินของฮ่องกงกลับ "ตรง" และ "แรง" กว่านั้น เพราะในเดือน ต.ค. ที่ซีรีส์ออกฉาย ตลาดหุ้นฮ่องกงดัชนีฮั่งเส็งเองได้ร่วงลงไปถึง 598 จุด ภายในเวลา 4 วัน!!! คิดเป็นมูลค่าหลักหมื่นล้านเหรียญฮ่องกง

และไม่ใช่เพียงเท่านั้น เพราะนับจากนั้นเมื่อใดที่ซีรีส์ของ เจิ้งเส้าชิว ออกอากาศตลาดหุ้นฮ่องกงก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนไปด้วยทันที ...

เรื่องราวของ ติงไห่ เอฟเฟค เป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางในฮ่องกงมาหลายปีแล้ว แม้จะมีบางคนเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความ "บังเอิญ" หรือไม่ก็เพียงการหยิบข้อมูลมา "จับแพะชนแกะ" มากกว่าจะเป็นสิ่งชี้วัดที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามนักลงทุนในฮ่องกงเองก็ยังคงระมัดระวังกับเรื่องนี้กันอยู่ดี แม้แต่ทางธนาคารดัง Crédit Lyonnais ก็ยังเคยหยิบยกเรื่องนี้ไปพูดถึงมาแล้ว

ยังมีรายงานว่าในเวลาเดียวกัน ติงไห่ เอฟเฟค ก็ส่งผลกระทบไปถึงอาชีพในวงการบันเทิงของตัว เจิ้งเส้าชิว ด้วย ที่ช่วงหนึ่งถึงกับมีข่าวว่าทางสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ TVB พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเลือกเขาให้มารับบทนำในซีรีส์ที่บริษัทสร้าง เพราะไม่อยากจะไปเกี่ยวข้อง หรือต้องรับผิดชอบหากหุ้นจะตกขึ้นมา

ส่วนในมุมมองของนักวิเคราะห์ ฟรานซิส จง จาก CLSA เองก็ยอมรับว่า ติงไห่ เอฟเฟค ยังคงมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนฮ่องกงต่อไป เพราะส่วนใหญ่ค่อนข้างจะเชื่อเรื่องแบบนี้กันมาก ซึ่งคงจะทำให้นักเล่นหุ้นทุกคนติดตามซีรีส์เรื่องMaster of Play ผลงานเรื่องล่าสุดของ เจิ้งเส้าชิว ที่มีกำหนดออกอากาศในช่วงปลายเดือน มิ.ย. และแพร่ภาพไปราวๆ 5 สัปดาห์กันด้วยความกังวลใจ

แม้นักวิเคราะห์จาก CLSA จะบอกว่าในมุมมองของเขา นักแสดงชื่อดัง และซีรีส์ทางโทรทัศน์คงจะไม่ได้มีผลต่อการขึ้นลงของตลาดหุ้นอะไรมากมาย แต่เขาเองก็ยอมรับว่า "ตลาดมันเป็นเรื่องของจิตวิทยาอยู่แล้ว"

Manager Online

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X