อัยการเผยไม่ดำเนินคดี “พัคบม” เพราะใช้ “แอมเฟตามีน” ตามใบสั่งแพทย์

 

       พนักงานอัยการได้ตอบข้อสงสัยในประเด็นที่ว่าไอดอลสาว “พัคบม” ได้ลักลอบนำยากล่อมประสาท “แอมเฟตามีน” เข้ามาในเกาหลีเมื่อ 4 ปีก่อน แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีใดๆ เพราะจากผลการสืบสวนเจ้าหน้าที่ได้พบว่าเธอใช้ยาดังกล่าวตามใบสั่งแพทย์นั่นเอง

       

       หลังเป็นข่าวใหญ่เมื่อมีสำนักข่าวแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้อ้างว่าเคยมีการตรวจสอบพบว่า พัคบม แห่งวง 2NE1 ได้ลักลอบนำยาแอมเฟตามีนเข้าเกาหลีด้วยช่องทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ จนถูกศุลกากรเกาหลีจับได้ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ จนเกิดข้อสงสัยว่าอาจจะมีการปฏิบัติกับเธอเป็นกรณีพิเศษ

       

       แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่อัยการได้ออกมาตอบข้อสงสัยถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว โดยสำนักข่าว 10Asia ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และอธิบายว่าปกติคดียาเสพติดผิดกฎหมายอย่างแอมเฟตามีน ถือว่าเป็นยาต้องห้ามที่หากใครพยายามนำเข้ามาในเกาหลี หรือเสพยาตัวดังกล่าวก็อาจจะมีโทษจำคุกถึง 5 ปีเลยทีเดียว เพราะเหตุนี้คดีที่เกี่ยวข้องกับแอมเฟตามีนก็จะได้รับการใส่ใจเป็นพิเศษ รวมถึงคดีของ พัคบม ด้วย แต่เมื่อตรวจสอบแล้วเจ้าหน้าที่ก็พบว่าเธอรับยาดังกล่าวตามใบสั่งจากแพทย์ที่สหรัฐอเมริกา และยังเคยมีประวัติการใช้ยาอย่างถูกต้องด้วย

       

       นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่า พัคบม เคยให้การว่าเธอพยายามหายาตัวอื่นมาใช้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผลจึงต้องสั่งยาแอมเฟตามีนมาใช้อีก โดยพนักงานอัยการได้สรุปว่าตามปกติเจ้าหน้าที่จะใส่ใจในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาที่มีฤทธิ์กล่อมประสาท โดยเฉพาะคดีที่พฤติกรรมของผู้ต้องหาเข้าข่ายเป็นความผิดในคดีอาญาที่มีโทษจำคุกมากกว่า 5 ปี และคดีของ พัคบม เจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้วจึงตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินคดีกับเธอ โดยไม่ได้เป็นการให้สิทธิพิเศษใดๆ อย่างแน่นอน

       

       ในเวลาเดียวกัน “ยางฮยอนซอก” ประธานของ YG Entertainment ก็ออกแถลงการณ์เพื่อปกป้องไอดอลสาวในสังกัด และยืนยันว่า “พัคบม” ไม่ได้ทำอะไรผิด นอกจากนั้นพนักงานอัยการก็ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องทั้งหมดแล้วจึงเลือกแนวทางที่จะไม่ดำเนินคดีกับเธอ

       

       ในจดหมายแถลงการณ์ของ ยางฮยอนซอก ได้เปิดเผยว่าตลอดหลายปีผ่านมาเมื่อตอนที่อาศัยอยู่ที่สหรัฐฯ พัคบม ต้องพึ่งยาแอมเฟตามีนเพื่อเยียวยาบาดแผลในจิตใจหลังจากเสียเพื่อนที่ใกล้ชิดคนหนึ่งไปต่อหน้า ระหว่างที่เล่นกีฬาฟุตบอลด้วยกัน

       

       โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอตัดสินใจหันหลังให้กับการเล่นกีฬาทั้งๆ ที่เป็นความใฝ่ฝันของตัวเองมาโดยตลอด และยังต้องรับยารวมถึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตด้วย

       

       ต่อมาเมื่อได้กลับมาทำงานเพลงที่เกาหลี พัคบม ก็ยังต้องใช้ยาตัวนี้ต่อไป แต่เพราะเธอไม่มีเวลาที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อรับยาด้วยตัวเอง จึงต้องอาศัยช่องทางการส่งพัสดุทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ และให้แม่กับยายเป็นผู้รับพัสดุแทน จนสุดท้ายก็เกิดปัญหาขึ้นมาเพราะตามกฎหมายของเกาหลีใต้นั้นแอมเฟตามีนเข้าข่ายเป็นยาเสพติดผิดกหมาย

       

       อย่างไรก็ตามเพราะ พัคบม สามารถแสดงหลักฐานการใช้ยาตามใบสั่งของแพทย์ที่สหรัฐฯ ให้กับเจ้าหน้าที่ได้ เธอจึงไม่ได้ถูกดำเนินคดี

 

ข้อมูลจาก

 

http://www.manager.co.th