กลายเป็นหนึ่งในปัญหาน่ากลุ้มสำหรับคนทุกรุ่นทุกวัยอยู่เสมอ สำหรับการเป็น “สิว” ในบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิวช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือที่เรียกกันว่า สิวฮอร์โมน ที่มีอาการรุนแรงมากกว่าปกติ ทั้งเจ็บ ทั้งบวมแดง แถมยังขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกันจนทำให้สาว ๆ หลายคนมีความกังวลว่าจะสามารถหาวิธีแก้ไขหรือรับมือกับอาการสิวฮอร์โมนอย่างไรได้บ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมจะขอพาสาว ๆ ไปทำความรู้จักกับสิวฮอร์โมน รวมถึงนำวิธีดูแลตัวเองและรักษาสิวฮอร์โมนที่ถูกต้องมาฝากกันด้วยค่ะ

สิวฮอร์โมน มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากภาวะฮอร์โมนที่ไม่สมดุลกันในร่างกาย เช่น ประจำเดือนผิดปกติ ความเครียด อารมณ์หงุดหงิด ซึ่งทางการแพทย์จะเรียกว่าอาการผิดปกติก่อนมีรอบเดือน Premenstrual syndrome หรือ PMS และอาจเป็นไปได้ว่าบางคนมีฮอร์โมนเพศชายในสัดส่วนที่เยอะกว่าฮอร์โมนเพศหญิง คือ มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง และขนดก โดยที่สิวฮอร์โมนนั้น จะมีลักษณะเป็นสิวอักเสบ ตุ่มแดงขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีอาการสิวเห่อบริเวณรอบปาก คาง แก้มเยอะเกินกว่าปกติในช่วงก่อนมีประจำเดือน สำหรับวิธีการรักษาและดูแลตนเองนั้นมี ดังต่อไปนี้

ใช้ยาทาสิว ทั้งแบบโลชั่น หรือครีมทาสิวที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบ ด้วยการนำมาแต้มหรือทาเป็นประจำทุกครั้งหลังล้างหน้าหรือตอนที่สิวเริ่มขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาอาการสิวให้ทุเลาลง

รับประทานยาที่มีส่วนช่วยปรับระดับฮอร์โมนของแต่ละคนให้อยู่ในภาวะที่เป็นปกติและมีความสมดุล รวมถึงยาปฏิชีวนะ ยาในกลุ่มวิตามินเอ หรือยาแก้อักเสบที่ช่วยฆ่าเชื้อสิวและบรรเทาอาการอักเสบสิวให้ยุบลงได้อย่างรวดเร็วจนหมดไปในที่สุด โดยในระยะแรกอาจจะต้องรับประทานติดต่อกัน 3-6 เดือนขึ้นไป เพื่อลดการดื้อยาและสิวที่อาจกลับมาเป็นอีก แต่อย่างไรก็ดียาปฏิชีวนะ และยาในกลุ่มวิตามินเอ อาจส่งผลต่อตับ ไต และอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นการรับประทานยาประเภทนี้ควรอยู่ในการดูแลและควบคุมโดยแพทย์

ใช้เลเซอร์รักษา ได้แก่ IPL, V-BEAM และการทำทรีทเม้นท์สำหรับคนเป็นสิว โดยทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งหรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดอาการหน้ามัน ลดอาการอักเสบของสิว รวมถึงรอยแดงสิวให้ลดลงได้

ปรับเปลี่ยนการรับประทานและการดูแลตนเองให้มากขึ้น โดยการหันมารับประทานผักและผลไม้สด ๆ ที่มีกากใยและช่วยชะล้างสารพิษตกค้าง ทั้งยังช่วยเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ส่งผลดีต่อผิวพรรณ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารที่อาจมีฮอร์โมนปะปน เช่น นมวัว เนื้อสัตว์ นอกจากนี้ยังใส่ใจเรื่องการทำความสะอาดผิวหน้า การออกกำลังกาย และการลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อช่วยปรับฮอร์โมนให้กลับมาสมดุลและเข้าสู่ภาวะปกติ


เมื่อเข้าใจสาเหตุและวิธีรักษาสิวฮอร์โมนกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลากำราบสิวฮอร์โมนให้อยู่หมัด โดยไม่ต้องมานั่งปวดใจกับสิวเห่อ ๆ ก่อนมีรอบเดือนอีกต่อไป ที่สำคัญอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอและอย่าเครียดมากเกินไป เดี๋ยวสิวบุกแล้วจะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ :)

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม