นพดล ปัทมะ ส่งจดหมายถึง บารัค โอบามา โดยชี้แจง 5 ข้อ เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยการระบุว่า รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาจากการซื้อเสียง และมีการใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงประเทศ

เมื่อวานนี้ (25 มกราคม 2557) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ส่งจดหมายถึงนายบารัค โอบามา ในก่อนหน้านี้ ตนเข้าใจว่าสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคงมีการรายงานเหตุการณ์ใน ประเทศไทยตลอดเวลาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนอยู่แล้ว ซึ่งนายบารัค โอบามา น่าจะเข้าใจเหตุการณ์และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องในการเมืองไทยเป็นอย่างดี ดังนั้นตนจึงขอชี้แจงคำบิดเบือนใส่ร้ายของนายสุเทพ ดังนี้

1. สำหรับประเด็นที่นายสุเทพ กล่าวว่า กปปส. มีจุดประสงค์เพื่อโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งได้รับอำนาจโดยตรงผ่าน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ตนขอเรียนว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับเสียงข้างมากจากประชาชนทั้งประเทศผ่านการเลือกตั้งตามระบอบ ประชาธิปไตย ไม่ใช่รัฐบาลเผด็จการ และขณะนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สิ้นสุดความเป็นรัฐบาลแล้ว เพียงแต่ต้องรักษาการไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง และในฐานะนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญเฉกเช่นเดียวกันกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาของนายสุเทพ

2. สำหรับประเด็นที่นายสุเทพ กล่าวหาว่า ครอบครัวชินวัตรใช้อำนาจการปกครองประเทศอย่างกดขี่ข่มเหง ทุจริต และไม่สนใจต่อสิทธิมนุษยชนถือเป็นความเท็จทั้งสิ้น ครอบครัวชินวัตรไม่มีอำนาจปกครองประเทศ แต่ประชาชนเลือกพรรคการเมืองที่มีคนนามสกุลชินวัตรเป็นสมาชิกอยู่ และประชาชนก็เลือกพรรคไทยรักไทย ซึ่งชนะการเลือกตั้งทั่วไปเหนือพรรคประชาธิปัตย์ทุกครั้ง

เหตุผลดังกล่าวอาจเป็นเหตุให้นายสุเทพไม่พอใจตระกูลชินวัตรและใส่ร้ายอย่าง ต่อเนื่อง เพราะนายสุเทพเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่สามารถนำพรรคชนะพรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว และในขณะที่อยู่ในตำแหน่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยใช้ความรุนแรงสั่งให้สลายการชุมนุมจนทำให้ผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ต้องเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว

3. สำหรับประเด็นที่นายสุเทพ กล่าวหาว่าพรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่อำนาจด้วยการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง และจัดการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใสนั้น นายสุเทพน่าจะกำลังกล่าวหาว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศไทย ที่จัดการเลือกตั้งไม่โปร่งใส เพราะความจริงแล้ว พรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านการเลือกตั้งอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม มิฉะนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งคงไม่รับรองผลเลือกตั้ง และสามารถให้ใบเหลืองหรือใบแดงแก่ผู้สมัครตามกฎหมาย ดังเช่นที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งนายสุเทพสังกัดอยู่ได้ฝ่าผืนกฎหมาย เลือกตั้งหลายคน

4. สำหรับประเด็นที่นายสุเทพบอกว่า กลยุทธ์ของกลุ่ม กปปส. คือ อารยะขัดขืน ตนไม่เข้าใจว่าอารยะขัดขืนของนายสุเทพหมายความเช่นไร แต่ความจริง คือ การเคลื่อนไหวของ กปปส. มีการใช้ความรุนแรง มีการยึดและปิดล้อมสถานที่ราชการ ปิดล็อกประตู ข่มขู่ข้าราชการไม่ให้ทำงาน ปิดถนนหลวงไม่ให้สัญจรไปมา ข่มขู่สื่อสารมวลชนให้เสนอข่าวตามที่ตนต้องการ ซึ่งผิดความหมายของคำว่า อารยะขัดขืนโดยสิ้นเชิง

5. สำหรับประเด็นที่นายสุเทพระบุว่า ควรมีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งนั้น เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อให้ได้อำนาจในการปกครองประเทศโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมาพรรคที่นายสุเทพสังกัดอยู่แพ้การเลือกตั้งทุกครั้ง นอกจากนี้ การอ้างว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เท่ากับนายสุเทพไม่ให้ความสำคัญกับคณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศไทย ซึ่งนายสุเทพมองว่าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมได้

นายนพดล ระบุข้อความอีกว่า ตนขอเรียนเพิ่มเติมว่า กปปส. และบุคคลที่มาร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาล สามารถใช้สิทธิของตนตามรัฐธรรมนูญได้ ตราบใดที่การชุมนุมสงบและปราศจากอาวุธ แต่ กปปส. ไม่มีสิทธิที่จะละเมิดเสรีภาพของประชาชนอีก 40 กว่าล้านคนที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อกำหนดอนาคตของประเทศ ทั้งตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย และตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลักประกันสิทธิและเสรีภาพของชาวอเมริกันฉันใด ย่อมเป็นหลักประกันในเรื่องดังกล่าวแก่ประชาชนคนไทยฉันนั้น