เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เตรียมร้อง ป.ป.ช. เอาผิด สุเทพ เทือกสุบรรณ ข้อหาขัดรัฐธรรมนูญ หลังรับนกหวีดทองคำ หนัก 6 บาท พร้อมเงินสด ทั้งที่พ้นเก้าอี้ ส.ส. ได้ไม่ถึง 2 ปี

วันนี้ (25 มกราคม 2557) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 27 มกราคม ที่จะถึงนี้ ตนจะยื่นเรื่องต่อประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ขอให้ตรวจสอบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กรณีรับนกหวีดทองคำและเงินสดจากบุคคลว่า เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 103 หรือไม่

ทั้งนี้ แม้นายสุเทพจะลาออกจากการเป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 และพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมาแล้ว แต่ก็เป็นระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี นอกจากนี้พยานหลักฐานต่าง ๆ ได้ปรากฏชัดเจนว่า นายสุเทพได้รับนกหวีดทองคำน้ำหนัก 6 บาท รวมทั้งเงินสดจำนวนมากจากบุคคลทั่วไปต่างกรรมต่างวาระกัน ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 103 มีโทษตามมาตรา 122 และมิใช่เป็นการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาตามประกาศป.ป.ช. ข้อ 5 และข้อ 8 จึงขอให้ ป.ป.ช. พิจารณาการกระทำความผิดของนายสุเทพโดยเร็ว

นอกจากนี้ นายเรืองไกร ยังกล่าวอีกว่า ขอคัดค้านไม่ให้ นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เข้ามาเกี่ยวข้องในการพิจารณาตามคำร้องนี้ เนื่องจากมีพยานเอกสารหลักฐานที่เชื่อได้ว่า นายภักดี ที่ได้รับแต่งตั้งจากประกาศ คปค. ฉบับที่ 19 เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2549 ไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการในบริษัทองค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์ชี ววัตถุ จำกัด ภายในเวลา 15 วัน จึงต้องถือว่าไม่ได้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. มาตั้งแต่ต้น

ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการคัดค้านและร้องต่อ ป.ป.ช. มาแล้วหลายครั้ง แต่ทาง ป.ป.ช. ไม่ได้ปฏิเสธหรือโต้แย้งแต่อย่างใด จึงเข้าใจว่า ป.ป.ช. เอง ก็อาจจำนนด้วยหลักฐาน ไม่กล้าทำความจริงเรื่องนี้ให้ประจักษ์ หาก ป.ป.ช. เห็นว่า การกล่าวหานายภักดีเป็นความเท็จ เป็นความเสียหาย หรือดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐของ ป.ป.ช. ก็ควรนำไปฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมเพื่อเอาผิดต่อผู้กล่าวหาต่อไป

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม