"แอปเปิล" สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สุดยิ่งใหญ่ให้กับโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นบริษัทที่น่าทำงานที่สุดในสายตาพนักงาน

ด้านมืดในที่ทำงานของแอปเปิลมาจากการสอบถามความเห็นพนักงานทั้งเก่าและใหม่ในปีที่ผ่านมา ซึ่งจัดทำโดยกลาสดอร์ดอทคอม พบความขุ่นข้องหมองใจร่วมกันในหลายประเด็น

เริ่มจากวัฒนธรรมความลับที่ส่งผลให้การทำงานลุล่วงได้ยาก พนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์รายหนึ่งระบุว่า บางครั้งความลับก็ทำให้ต้องทำงาน 2 ครั้ง เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องตารางหรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ส่วนลูกหม้อบางคนบอกว่า วัฒนธรรมความลับอย่างมากทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้แน่ชัดว่าได้รับมอบหมายให้ทำอะไร มีทางเลือกเดียว คือ การทำงานแบบคลำหาทาง

เรื่องต่อมา ที่หนุ่มสาวชาวแอปเปิลไม่ปลื้ม หนีไม่พ้นการที่ต้องทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่หยิ่งผยอง วิศวกรซอฟต์แวร์ระดับอาวุโสรายหนึ่งเล่าว่า วิศวกรส่วนใหญ่มักมองเห็นความสามารถของตัวเองแบบขั้นเทพ และแสดงทัศนคติเหล่านั้นออกมาแบบไม่แคร์สื่อ

อีกเรื่อง คือ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก ดูอย่างการตรวจสอบผลงานพนักงานก็เป็นไปอย่างล่าช้า

ขณะที่ การให้สิทธิประโยชน์ของแอปเปิลก็เป็นสิ่งที่พนักงานยี้ เพราะดูเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น แอปเปิลไม่มีอาหารกลางวันฟรีสำหรับพนักงาน หรือไม่มีห้องออกกำลังกาย แตกต่างกับสิ่งที่คู่แข่งอย่างกูเกิลและเฟซบุ๊คจัดเตรียมให้เหล่าหนุ่มสาวออฟฟิศของตัวเอง

ประเด็นต่อมา ไม่มีความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานที่แอปเปิล พนักงานหลากหลายแผนกส่งเสียงบ่นเหมือนกันถึงชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน และตารางการทำงานที่ไม่ยืดหยุ่น ซึ่งบางคนทำงาน 6-7 วันต่อสัปดาห์ ตลอด 6-8 เดือนต่อปี จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พนักงานจะสร้างสมดุลให้กับการทำงานและชีวิตส่วนตัว

นอกจากนี้ เป็นเรื่องยากที่พนักงานจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง หนุ่มสาวแอปเปิลไม่พอใจที่โอกาสเติบโตในสายงานริบหรี่ และแม้จะมีผลงานโดดเด่น บริษัทก็อาจเลือกจ้างบุคลากรจากภายนอกแทนที่จะดันคนใน พนักงานบางคนถึงกับบอกว่า การเลื่อนตำแหน่งมีความหวังน้อยนิด และอาจไม่มีอยู่จริง

อีกประเด็น ที่มีเสียงบ่น คือ เงินเดือนที่ไม่ได้มากมาย เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งนี่เป็นมุมมองในส่วนของพนักงานในร้านค้าปลีกของแอปเปิล แต่หากเป็นตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ มืออาชีพด้านไอที คนเหล่านี้มองว่าหลายตำแหน่งในแอปเปิลจ่ายเงินเดือนงามกว่าค่าเฉลี่ย

หลายเสียง เริ่มเห็นการบริหารแบบมีขั้นตอนมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ความน่าร่วมงานลดน้อยลง ขณะที่ "อดัม ลาชินสกี้" ตั้งข้อสังเกตผ่านนิตยสารฟอร์จูนว่า การทำงานในแอปเปิลเริ่มมีการล้วงลูกจากฝ่ายบริหารมากขึ้น เมื่อเทียบกับตอนที่ "สตีฟ จ็อบส์" เคยกุมบังเหียน

แอปเปิล มีปัญหาการบริหารจัดการในระดับกลาง ในขณะที่พนักงานไม่ได้บ่นถึงผู้บริหารระดับสูง ลูกหม้อหลายคนมองว่าแอปเปิลขาดผู้จัดการระดับกลางที่มีประสบการณ์ ทำให้การพัฒนาองค์กรในระยะยาวเป็นเรื่องยาก

ปัญหาอีกอย่าง คือ ไอเดียบรรเจิดมักถูกขโมย และถูกเพื่อนร่วมงานแอบอ้างว่าเป็นผลงานของตัวเอง วิศวกรระดับอาวุโสรายหนึ่งสะท้อนปัญหาที่แพร่ไปทั่วองค์กรว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องน่ายินดี แต่อย่าแปลกใจหากไอเดียดีๆ ที่มีต้นทางมาจากคุณ กลับลงท้ายด้วยการที่คนอื่นหยิบไปนำเสนอในที่ประชุม โดยที่คุณไม่ได้มีส่วนร่วม

สุดท้าย คือ การไม่ผ่อนปรนให้กับผลงานธรรมดาๆ ซึ่งสร้างความเครียดให้กับการทำงานในองค์กรแห่งนี้ เพราะแอปเปิลไม่มีที่ทางให้กับความธรรมดา หากคุณไม่ใช่พนักงานที่มีผลงานระดับเกรดเอ คุณอาจต้องระเห็จออกไปอยู่ที่อื่น แต่อีกด้านหนึ่ง นี่ก็สร้างจุดแข็งให้กับแอปเปิล ดังที่สตีฟ จ็อบส์ เคยบอกไว้ก่อนที่จะล่วงลับว่า เขาต้องการพนักงานเกรดเอ ซึ่งจะทำงานให้บริษัทได้ดี

cr. http://www.bangkokbiznews.com