ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี โพสต์เฟซบุ๊กถึงกลุ่มอนุรักษ์ วอนพิจารณากรณีสร้างเขื่อนแม่วงก์ใหม่ด้วยเหตุผล เนื่องจากมีแผนรองรับการฟื้นฟูพื้นที่ป่าหลังการก่อสร้างแล้ว และเชื่อว่าโครงการนี้คุ้มค่าในด้านการป้องกันน้ำท่วม

            สืบ เนื่องจากกรณีที่ นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร พร้อมกลุ่มอนุรักษ์ ร่วมกันเดินเท้าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ เพื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบหากมีการสร้างเขื่อน ก่อนเข้าสู่กรุงเทพมหานคร รวมระยะทางกว่า 388 กิโลเมตร เนื่องจากโครงการดังกล่าวอาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียพื้นที่ป่าธรรมชาติ กว่า 1.3 หมื่นไร่ โดยไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำที่ท่วมในพื้นที่เสี่ยงได้ทั้งหมดนั้น

            ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2556 ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ได้แสดงความคิดเห็นต่อการคัดค้านดังกล่าวของกลุ่มอนุรักษ์ ด้วยการโพสต์มุมมองในฐานะผู้ดูแลโครงการดังกล่าวผ่าน เฟซบุ๊ก ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี โดยระบุเนื้อหาดังนี้...


“เหตุผลอีกด้านก่อนค้านแม่วงก์
 
            แนวคิดเขื่อนแม่วงก์ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์มีมาตั้งแต่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว แต่เมื่อ 15 ปีก่อน วัตถุประสงค์ของการสร้างเขื่อนมีไว้เพื่อเก็บน้ำใช้ในการชลประทาน กรมชลประทานประเมินไว้ว่าจะสามารถส่งน้ำไปในพื้นที่เกษตรได้สามแสนไร่ เวลานั้นก็ถูกคัดค้านเพราะทำให้สูญเสียป่าหมื่นกว่าไร่ สัตว์ป่าก็ต้องหนีน้ำท่วมจึงไม่คุ้มกับการสร้างเขื่อน

            ในขณะนั้นผมเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ ผมไม่เชื่อว่าโครงการนี้จะเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ พื้นที่ใน จ.อุทัยธานี นั้น เป็นพื้นที่ชัน ไม่รู้จะเอาพื้นที่ชลประทานมาจากไหน ถ้าจะเพิ่มพื้นที่ชลประทานพื้นที่อื่นมีเยอะแยะ ผมจึงตัดสินใจไม่ให้ทำ

            มาถึงวันนี้เรื่องเขื่อนแม่วงก์ถูกรือฟื้นขึ้นมาใหม่ ในอีกจุดประสงค์หนึ่ง ในครั้งนี้เขื่อนแม่วงก์มีไว้เพื่อป้องกันน้ำท่วม

            น้ำ จากลุ่มน้ำแม่วงก์ไหลลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง และไหลจากสะแกกรังลงแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสะแกกรังมีน้ำประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นช่วงฤดูน้ำไปเสียประมาณ 60% ถ้าควบคุมไม่ได้ก็จะไปเพิ่มน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูน้ำอีก 600 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่มาจากนครสวรรค์ก็ประมาณ 2,000-3,000 ล้านลูกบาศก์เมตรอยู่แล้ว ถ้าน้ำมาเยอะแบบนี้แม่น้ำเจ้าพระยาก็จะรับไม่ไหวจนท่วมริมตลิ่งแม่น้ำเจ้า พระยา และถ้าไหลลงมาข้างล่างก็จะมารวมกันที่ชัยนาท ถ้าเขื่อนชัยนาทคุมไม่ไหว ในที่สุดก็จะมาท่วมใหญ่อย่างที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ ถ้าเราสามารถตัดยอดน้ำที่แม่น้ำสะแกกรังได้โดยการสร้างเขื่อมแม่วงก์ ก็จะบรรเทาภาระของเขื่อนชัยนาท บรรเทาน้ำท่วมในที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้แก่ ปทุมธานี สิงห์บุรี อ่างทอง และ อยุธยา

            เพราะฉะนั้นวันนี้จุดประสงค์มันคือการแก้น้ำท่วม ที่มันคุ้มค่าเพราะความเสียหายจากน้ำท่วมปีที่แล้ว 1.4 ล้านล้านครับ มันมโหฬาร มันวัดได้แน่นอน และอาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้

            ใน วันนี้เราสร้างเพื่อป้องกันน้ำท่วม ลดน้ำท่วม ลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม เพื่อป้องกันผลทางลบ ไม่ใช่เรื่องเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ซึ่งคนละมุมมองกับเมื่อ 15 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง

            แม้บรรดานักสิ่งแวดล้อมหลายคนกังวลถึงพื้นที่ป่าที่เชื่อมกับพื้นที่ป่า ตะวันตก พื้นที่ป่าตะวันตกมีสัตว์ป่าเยอะขึ้น สัตว์เลยต้องขยายพื้นที่ ควรจะมีพื้นที่นี้รองรับสัตว์ที่มันขยายตัว ผืนป่าตะวันตกก็เช่นทุ่งใหญ่นเรศวร ห้วยขาแข้ง ผมในฐานะอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ที่เป็นผู้ประกาศตั้งผืนป่าตะวันตก ก็ขอชื่นชมในความรักป่า รักสัตว์ป่า แต่พื้นที่ป่าที่จะเสียไป มันได้คืนความชื้นคืนมา ได้น้ำคืนมา ไม่มีต้นไม้หรือสัตว์ที่ไม่ชอบน้ำ และตามโครงการก็จะปลูกป่าทดแทนที่เสียไป

            คนรักธรรมชาติต้องเป็นคนมีความเป็นธรรม มีความเป็นกลาง ต้องเคารพความเห็นของทุกคน สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคนรักธรรมชาติมากมาย ผมอยากให้ทุกคนเคารพประสบการณ์ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ และบริษัทที่ปรึกษา พวกเขามี discipline มีมาตรฐานในการทำงานของเขา ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่พอใจก็มานั่งคุยกัน มาถกเถียงกันด้วยหลักวิชาการ ด้วยเหตุผล และให้ข้อมูลกับสังคมที่ถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา

            คุณจะทำเพื่อต้นไม้หรือคุณจะทำเพื่อสัตว์ ผมซาบซึ้งในน้ำใจและขอบคุณในฐานะอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ แต่ในตอนนี้ ผมต้องทำเพื่อคนไทย ต้องทำให้คนไม่ถูกน้ำท่วม ไม่บาดเจ็บล้มตาย มาคุยถึงความสำคัญและความจำเป็นกันด้วยเหตุผลดีกว่าครับ”

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม