เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก The Lord of the Rings Trilogy, เฟซบุ๊ก The Silence Of The Lambs, เฟซบุ๊ก Atonement, เฟซบุ๊ก The Girl With The Dragon Tattoo, เฟซบุ๊ก Requiem for a Dream., เฟซบุ๊ก Eat Pray Love, เฟซบุ๊ก The Scarlet Letter, The Da Vinci Code, เฟซบุ๊ก The Rum Diary, เฟซบุ๊ก The Golden Compass

สำหรับคนรักการอ่านนิยายแล้ว พอได้ฟังว่าหนังสือเล่มโปรดของตัวเองจะได้สร้างเป็นหนังแต่ละที ก็ต้องคาดหวังตั้งหน้าตั้งตารอกันอยู่แล้ว เพราะการได้เห็นเรื่องราวที่เราจินตนาการเอาไว้ ออกมาเป็นรูปร่างโลดแล่นบนจอ ให้คนอื่น ๆ ที่ไม่เคยได้ดูมีโอกาสได้สัมผัสมันด้วย มันน่าตื่นเต้นออกจะตายไป

แต่จากความประทับใจจะกลายเป็นความผิดหวังขึ้นมาทันที หากหนังถ่ายทอดเรื่องราวในหนังสือไม่ได้อย่างใจ หรือหาคนแสดงมาแบบที่ตรงข้ามกับที่บรรยายไว้ในหนังสือโดยสิ้นเชิง ผิดกับหนังที่ทำออกมาได้ดี จนทำให้เรายิ่งอยากเอามาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก และต้องยอมรับล่ะว่าหนังที่สร้างจากหนังสือใช่ว่าจะดีไปซะหมดทุกเรื่อง ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวม 5 หนังยอดเยี่ยมและยอดแย่ ที่ดัดแปลงจากนิยายซึ่งจัดโดยเว็บไซต์ Men's XP มาฝากคุณแล้ว ลองมาดูสิว่ามีเรื่องไหนตรงใจคุณบ้าง


หนังยอดเยี่ยม

1. The Lord Of The Rings

งานเขียนของ เจ.อาร์.อาร์. โทลคีน (JRR Tolkien) เรื่องนี้ เป็นนิยายยิ่งใหญ่ที่สาวกนิยายแนวแฟนตาซีแทบทุกคนจะต้องเคยอ่าน ทำให้มีการคาดหวังสูงตามไปด้วย แถมยังมีรายละเอียดยาวเหยียดเต็มไปหมด เกินกว่าจะทำเป็นหนังสั้นเพียงภาคเดียวจบได้ จึงนับเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ที่จะสร้างเรื่องนี้อออกมาเอาใจแฟนหนังสือได้ด้วย แต่ ปีเตอร์ แจ็คสัน (Peter Jackson) ก็กล้าจะลองเสี่ยงพิสูจน์ความสามารถของตัวเองดูสักครั้ง และทำให้มันกลายเป็นหนังทำเงินมหาศาลในทันใด ด้วยวิธีการถ่ายทอดเรื่องราวที่ทำให้แม้แต่คอหนังที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนยังเข้าใจได้อย่างละเอียด เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกเลยล่ะ

2. The Silence Of The Lambs

หนังสือเล่มที่สองของ โธมัส แฮร์ริส บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์กินคนที่คร่าชีวิตมนุษย์ด้วยกันมานับไม่ถ้วนอย่าง ฮันนิบาล เลคเตอร์ ซึ่ง เท็ด ทอลลี (Ted Tally) คนเขียนบทตัดสินใจคงบทพูดของตัวละครเอาไว้ตามบทประพันธ์เสียส่วนใหญ่ เพื่อให้หนังมีบรรยากาศแบบเดียวกับในหนังสือ ในขณะที่ โจนาธาน เดมม์ (Jonathan Demme) ผู้กำกับก็กล้าลองถ่ายทอดมุมมองแปลกใหม่ต่างจากผลงานที่ผ่านมาเพื่อเข้าถึงเนื้อเรื่องนี้ด้วย และเมื่อประกอบกับฝีมือการแสดงระดับมืออาชีพของ โจดี้ ฟอสเตอร์ (Jodie Foster) กับ แอนโธนี ฮ็อปกินส์ (Anthony Hopkins) ยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ชวนขนลุกสมจริงขึ้นอีก

3. Atonement

นิยายของ เอียน แม็คอีวาน (Ian McEwan) เกี่ยวกับหญิงสาวที่ในอดีตด้วยวัยเพียง 13 ปี ทำให้เธอกล่าวหาคนรักของพี่สาว ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เธอจึงมีปมในใจ และพยายามจะแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง ซึ่ง โจ ไรท์ (Joe Wright) ผู้กำกับของเรื่องสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างลึกซึ้ง อีกทั้งภาวะท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังดูเหมือนจริงสุด ๆ อีกด้วย

4. The Girl With The Dragon Tattoo

ไม่ค่อยมีนักหรอกที่ภาพยนตร์จะทำได้ดีกว่าในหนังสือ แต่ เดวิด ฟินเชอร์ ( David Fincher) ก็ได้ทำให้มันเกิดขึ้นจริงแล้ว โดยหนังสือที่อิงมาจากงานเขียนชื่อเดียวกันของ สตีก ลาร์สสัน (Stieg Larsson) นี้ ทำให้คนดูยิ่งรู้สึกอินกับความลึกลับซับซ้อนน่าค้นหายิ่งกว่าในหนังสือเสียอีก ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ แดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) และ รูนีย์ มารา (Rooney Mara) สองดารานำของเรื่องด้วย
 

5. Requiem For A Dream

ดัดแปลงมาจากหนังสือของ ฮิวเบิร์ต เซลบี จูเนียร์ (Hubert Selby Jr.) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนติดยาเสพย์ติด ซึ่งเทคนิคการถ่ายภาพและการเล่าเรื่อง จะทำให้คุณแทบไม่สามารถละสายตาจากจอได้เลยทีเดียว กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ได้เจอกับบทสรุปที่ยอดเยี่ยมเสียแล้ว ดังนั้นถ้าหนังสือทำให้คุณประทับใจแล้วล่ะก็ หนังจะยิ่งช่วยให้คุณมองเห็นภาพของเรื่องนี้ชัดเจนมากขึ้นแบบไม่ผิดหวังแน่นอน


หนังยอดแย่

1. Eat Pray Love

แม้ว่าหนังสือของ อลิเซาเบธ กิลเบิร์ต (Elizabeth Gilbert) เล่มนี้จะติดหนึ่งในหนังสือขายดี แต่หนังกลับตรงกันข้าม เพราะเรื่องที่บอกเล่าชีวิตหญิงสาวซึ่งผ่านปัญหาหย่าร้างมาจนบอบช้ำทางจิตใจ ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง จากการความผิดหวังกับความรู้สึกผิด พอมาทำเป็นหนังไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิด ตัวเอกที่แสดงโดย จูเลีย โรเบิร์ต (Julia Robert) กลับกลายเป็นตัวละครที่เราแทบไม่รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำจนยากจะเข้าถึงได้ ทำให้คนไม่รู้สึกอินเท่าที่ควร

2. The Scarlet Letter

เรื่องนี้ถือเป็นหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือได้น่าผิดหวังมากที่สุดเลยก็ว่าได้ จนทำให้คนอ่านเหมือนกับถูกทรยศเลยทีเดียว เพราะมันเหมือนเป็นคนละเรื่องกันอย่างไรอย่างนั้น ทั้งนักแสดงที่คาแรคเตอร์ไม่ให้ แล้วไหนจะการดำเนินเรื่อง แถมยังมีการพยายามโชว์สำเนียงแปร่งหูที่ฟังแล้วยิ่งงงกว่าเดิม ประกอบกับฉากอีโรติกในอ่างน้ำที่ไม่รู้จะใส่มาทำไมด้วย ทำเอาแฟนหนังสือสนุกกับมันไม่ลงจริง ๆ

3. The Da Vinci Code

จริงอยู่ว่าพระเอกมืออาชีพ ทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) และสาว Audrey Tautou (ออเดรย์ โตตู) รวมไปถึง พอล เบ็ตทานี (Paul Bettany) ได้แสดงบทของตัวเองสุดความสามารถอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ตัวละครตัวอื่น ๆ กลับดูสับสนงงงวย จนทำให้คนดูพลอยมึนตามไปด้วยซะอย่างนั้น นอกจากนี้ ความผิดร้ายแรงที่สุดก็คือการไม่ปล่อยให้คนดูได้มีโอกาสคิดวิเคราะห์ตามไปด้วยซึ่งเป็นเสน่ห์ของหนังสือเรื่องนี้ ถือเป็นจุดบอดที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าผิดหวังเอามาก ๆ

4. The Rum Diary

ใครจะไปคิดล่ะว่าหนังที่นำแสดงโดยพระเอกสุดฮอตมากความสามารถอย่าง จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) จะกลายเป็นหนังแป้กไปซะได้ ซึ่งภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากงานเขียนของ ฮันเตอร์ เอส ทอมป์สัน (Hunter S. Thompson) เรื่องนี้ ถ้าพูดถึงกลิ่นอายความคลาสสิกก็พอได้อยู่หรอก แต่มันมาตกม้าตายเอาตรงตอนจบที่ไม่ได้สอดคล้องกับในหนังสือเอาซะเลยนี่แหละ แบบนี้แล้วจะไม่ให้แฟนหนังสือผิดหวังกันได้ยังไงล่ะ

5. The Golden Compass

น่าเสียดายที่นิยายแฟนตาซีซึ่งมีโอกาสกลายเป็นหนังทำเงินได้มากกว่านี้ ต้องมาถูกสร้างแบบเสียอรรถรสเดิมไปอย่างสิ้นเชิง ทั้ง ๆ ที่มีดารานำมากความสามารถอย่าง นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) และ แดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) จากการเดินเรื่องที่ยืดยาดชวนหลับ แล้วไหนจะฉากแอ็คชั่นที่เน้นเกินความจำเป็นทั้งที่เป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีอีก ทำให้คนที่รักจินตนาการชวนฝันของเรื่องผิดหวังไปตาม ๆ กัน

เรียกได้ว่าพอจะเอานิยายมาสร้างเป็นหนังแต่ละที แฟนหนังสือก็ได้แต่ลุ้นกันล่ะว่า หนังจะออกมาดีหรือแย่กันแน่ ถ้าดีก็ดีไป ส่วนถ้าแย่นี่คงไม่ขอดูอีกให้เสียเวลาแน่นอน ว่าแต่มีภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือเรื่องไหนที่คุณชอบหรือติดลบกันอีกบ้าง อย่าลืมแชร์ความคิดเห็นกันด้วยนะคะ