สื่อดัง “สปอร์ต โซล” แฉต้นสังกัด “T-ara N4” บุกด่ากราดแถมกดดันหลังเขียนข่าวแง่ลบ

 

หลังจากที่ไม่กี่วันก่อนกลุ่มนักร้องสาวกรุ๊ปพิเศษ “T-ara N4” ได้จัดแถลงข่าวเกี่ยวกับการร่วมงานครั้งพิเศษของสาวๆกับศิลปินชื่อดัง “คริส บราวน์” เพื่อเรียกความสนใจให้สื่อหลายสำนักไปทำข่าว ล่าสุดทางสื่อดัง “สปอร์ต โซล” ได้ร้องเรียนหลังซีอีโอเจ้าของค่ายออกอาการไม่ปลื้มกับบทความด้านลบที่พวกเขานำเสนอไป

       

       เรียกได้ว่าเป็นการพิพาทกันครั้งใหญ่เลยทีเดียวสำหรับต้นสังกัด Core Contents Media ของเกิร์ลกรุ๊ปสาว T-ara ที่ล่าสุดได้บีบสื่อดังอย่าง สปอร์ต โซล (Sports Seoul) ให้แก้ไขบทความจนเป็นเหตุให้สื่อดังตอบโต้ต้นสังกัดอย่างไม่ไว้หน้าทันที

       

       โดยบทความล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า “ต้นสังกัด T-ara พยายามทำตัวเป็นโค้ชบอกเราถึงทิศทางของบทความ “ช่างน่าอดสูยิ่งนัก”” ซึ่งเป็นบทความที่สื่อดังใช้วิจารณ์ถึงปฏิกิริยาที่ไม่พอใจของต้นสังกัดที่แสดงต่อผู้ทำหน้าที่สื่อ โดยเขียนแจกแจงรายละเอียดทุกอย่างไว้อย่างชัดเจนพร้อมยืนยันว่าสิ่งที่เขียนไปทุกอย่างล้วนเป็นความจริง

       

       ตามรายงานจากทางสปอร์ต โซลระบุว่า บทความที่พวกเขาได้เขียนไปนั้นมีทั้งหมด 6 บทความด้วยกัน 5 ชิ้นแรกเป็นบทความมาตรฐานตามที่ต้นสังกัดต้องการ ขณะที่ชิ้นที่ 6 ที่ระบุว่า “การแถลงข่าวการลงทุนของ T-ara ที่อเมริกาไม่ได้รับเสียงปรบมือ” โดยบทความชิ้นนี้เองที่ทำให้ต้นสังกัดออกอาการเดือดแบบสุดๆ

       

       โดยสปอร์ต โซล ชี้แจงว่าการแถลงข่าวที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้น่าตื่นเต้นเหมือนกับงานแถลงข่าวของศิลปินรายอื่นเลย พร้อมระบุอีกว่ามีสื่อหลายสำนักไม่มาเข้าร่วมการแถลงข่าวที่เกิดขึ้นนี้เลยด้วยซ้ำ

       

       หลังจากบทความเผยแพร่ออกไป ทางตัวแทนของต้นสังกัดก็ได้ติดต่อมายังสปอร์ต โซล ทันทีพร้อมระบุว่า “ซีอีโอไม่ปลื้ม” และยังร่ายเหตุผลว่าทำไมสื่อดังกล่าวควรจะเปลี่ยนบทความที่เผยแพร่ออกไปแล้วด้วย

       

       “ต้นสังกัดแสดงความไม่พอใจออกมาเพราะเห็นว่าทัศนคติและความเห็นของนักข่าวได้ถูกเขียนลงไปในบทความด้วยแทนที่จะเผยแพร่เนื้อหาตามที่พวกเขากลั่นกรองให้แล้ว ให้ทำซ้ำไม่ต่างจากนกแก้ว”

       

       นอกจากนั้นทางตัวแทนของ CCM ต้นสังกัดที่บุกไปยังออฟฟิศของสื่อสปอร์ต โซลยังได้ด่าสาดเสียเทเสียใส่นักข่าวเช่นกัน ซึ่งสื่อได้แสดงความเห็นว่า “แม้ว่าพลังของพวกเขาในวงการบันเทิงจะมีมากขึ้น แต่การทำแบบนี้มันมากเกินไป....ถ้าพวกเขาแสดงพลังอำนาจมากขนาดนี้ต่อหน้

 

ข้อมูลจาก

 

http://www.manager.co.th