เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม 11 แกนนำองค์กรพิทักษ์สยาม กรณีเคลื่อนไหวชุมนุมช่วงประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยนัดทั้งหมดรับทราบข้อกล่าวหา 18 มกราคมนี้ 

          เมื่อวันที่ 15 มกราคม  พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ผู้รับผิดชอบงานสอบสวนในฐานะรองหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม องค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่กระทำผิดกฎหมาย ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานดำเนินคดีกับแกนนำและผู้ชุมนุมเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ได้ส่งสำนวนสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหากระทำผิด พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จำนวน 127 คน ให้พนักงานอัยการดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา

          โดย พล.ต.ต.อนุชัย เผยว่า คณะพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษาในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ร่วมกับพนักงานสอบสวน บช.น. บช.ก. โดยกองปราบปราม และ บช.ภ.1 ลงความเห็นต้องกันว่า จะออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อหา ในความผิดของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม จำนวน 11 คน จากการขยายผลความผิดสืบเนื่องกรณีที่มีการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ช่วงที่ผ่านมา ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 18 มกราคม ซึ่งทั้ง 11 คน นั้นประกอบด้วย

      1. พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์

      2. นายชัยพันธ์ ประภาสะวัต

      3. นายอธิวัฒน์ บุญชาติ

      4. ร.ต.แซมดิน เลิศบุษย์

      5. นายไทกร พลสุวรรณ

      6. นพ.เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา

      7. นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์

      8. กิตติชัย ใสสะอาด

      9. นายอมร อมรรัตนานนท์

      10. นายสุนทร รักษ์รงค์

      11. นายทศพล แก้วทิมา

          โดยทั้ง 11 คนข้างต้นนี้ ถูกเรียกตัวเนื่องจากกระทำความผิดในข้อหา กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิก ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215 และ 216 ซึ่งแต่ละคนต้องรับผิดชอบการกระทำในแต่ละส่วนไป

          นอกจากนี้ พล.ต.ต.อนุชัย ผังเผยอีกว่า การดำเนินคดีกับใครนั้นต้องมีการประชุมหารือ และฟังความเห็นของทุกฝ่าย หากพบว่าใครมีความผิดเพิ่มเติมก็ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยก่อนจะถึงวันนัดหมายรับทราบข้อกล่าวหา เราจะมีการประชุมคณะทำงานอีกครั้งวันที่ 17 มกราคม เพื่อเตรียมความพร้อม

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม