สื่อต่างชาติ ประณามโจรใต้ ยิงครูพุทธ 2 ศพ-ยิงเด็ก 11 เดือนดับ
2012-12-12 09:18:56
Advertisement
คลิก!!!

 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คลิป โจรแต่งพราง ยิงผอ ครู ดับคู่คาร ร 12 Dec 2012 : โพสต์โดย CiNNtv3 

          โหด เหี้ยม! โจรใต้แต่งกายคล้ายทหารบุกยิงครูพุทธ 2 ศพ คาโรงอาหารโรงเรียน ขณะรับประทานอาหาร เป็นศพที่ 156-157 ส่วนช่วงเช้าวันเดียวกัน คนร้ายขน เอ็ม 16 อาก้า และเอสเค บุกยิงร้านน้ำชา เสียชีวิต 5 ศพ บาดเจ็บ 4 ราย ด้าน สื่อต่างประเทศประณามความรุนแรงในไทย เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีเด็กอายุ 11 เดือนรวมอยู่ด้วย ขณะที่ ผบ.ทบ. เตรียมลงพื้นที่ ด้านยิ่งลักษณ์ ลังเลลงพื้นที่ไปพบกลุ่มสตรีที่ปัตตานี ขอดูสถานการณ์ก่อน

          ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ล่าสุด ครูชาวไทย 2 คน ถูกโจรใต้บุกยิงคาโรงเรียน ในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน นับว่าเป็นศพที่ 157 แล้วในปีนี้

          โดยล่าสุดวานนี้ (11 ธันวาคม) เมื่อเวลา 12.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า นาง ตติยารัตน์ ช่วยแก้ว อายุ 49 ปี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาโง และนายสมศักดิ์ ขวัญมา อายุ  38 ปี ซึ่งเป็นครูในโรงเรียนเดียวกัน ถูกยิงเสียชีวิต ทั้งนี้ เมื่อเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณนั้นเป็นโรงอาหารของโรงเรียน พบจานอาหารและเก้าอี้ล้มระเนระนาด ข้างโต๊ะ พบ ศพนางตติยารัตน์ นอนจมกองเลือด สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 นัด เข้าบริเวณหลังทะลุหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้ศพพบปลอกกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 3 ปลอก และกระสุนด้าน 1 นัด

          ส่วนบริเวณด้านหน้าโรงอาหาร พบศพนายสมศักดิ์บนรถยนต์กระบะของชาวบ้าน สภาพศพเหมือนกับ นางตติยารัตน์ ผอ.โรงเรียน ขณะที่รถยนต์กระบะ มาสด้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บจ 218 ยะลา และอาวุธประจำตัว 9 มม. อยู่ในรถ ของครูสมศักดิ์ ถูกคนร้ายขโมยไป

          จากการสอบสวนทราบว่า โรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล - ป.6 มีครู 7 คน ไทยพุทธ 2 และอิสลาม 5 มีนักเรียน 74 คน เป็นมุสลิมทั้งหมด และอาศัยอยู่ใกล้โรงเรียน ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงพักเที่ยง เด็กนักเรียนส่วนใหญ่กลับบ้านเพื่อรับประทานอาหาร มีเพียงบางส่วนที่เล่นอยู่ในห้องและลานกีฬา

          ส่วน ผอ. และครูรวม 7 คน นั่งรับประทานอาหารร่วมกันบนโต๊ะในโรงอาหาร โดยมีผู้ตายที่เป็น ผอ. นั่งอยู่หัวโต๊ะ ขณะที่รับประทานอาหารอยู่นั้น มีคนร้ายจำนวน 5 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะจำนวน 2 คัน ได้ซ้อนท้ายกันมา โดยสวมชุดพรางคล้ายทหารจอดหน้าโรงเรียน และคนร้าย 3 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือได้ลงจากรถและเดินเข้าไปโรงอาหาร ทำให้ครูที่รับประทานอาหารต่างตกใจกัน

          โดย เฉพาะ ผอ. โรงเรียนซึ่งเป็นผู้หญิง ได้ลุกหนีไปหลบอยู่ด้านหลัง ครูเกษม เจ๊ะอาลี ซึ่งเป็นครูในโรงเรียนเช่นกัน แต่คนร้ายไม่พูดอะไร ใช้อาวุธยิงเข้าไปที่หลังศีรษะของ ผอ. ล้มฟุบไป จากนั้นคนร้ายอีกคนเดินเข้าไปหาครูสมศักดิ์ และใช้เอ็ม 16 ยิงที่ศีรษะด้านหลังเช่นกัน ล้มฟุบลงไป จากนั้นคนร้ายได้ค้นตัวครูสมศักดิ์ และขโมยเอากุญแจรถ

          จากนั้นคนร้ายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนคนร้ายอีกคนขโมยรถยนต์กระบะของครูสมศักดิ์ โดยในรถมีอาวุธปืนของครูไปด้วย 1 กระบอก หลบหนีไปอย่างลอยนวล ส่วนชาวบ้านหลังได้ยินเสียงปืนได้เข้ามาในโรงเรียนและนำครูสมศักดิ์ขึ้นรถ เพื่อจะส่งโรงพยาบาลเนื่องจากยังไม่เสียชีวิต แต่พอขึ้นรถก็เสียชีวิตทันที


          ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ของโจรใต้ เนื่องจากยิงเพียงครูไทยพุทธ 2 คน ส่วนครูในพื้นที่อีก 5 คนไม่ได้ยิง สำหรับโรงเรียนดังกล่าวเคยถูกคนร้ายลอบเผามาแล้วเมื่อปี 2553 และเพิ่งสร้างโรงเรียนเสร็จ ขณะที่ นายเกษม เจ๊ะอาลี ครูในโรงเรียน เล่าให้ฟังว่า หลังจากคนร้าย 3 คนสวมชุดพรางคล้ายทหาร มีอาวุธครบมือเข้ามา ตนนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ แต่ดูพฤติกรรมแล้วไม่ใช่ ทำให้พวกเราต่างตกใจกันหมด ทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะ ผอ. โรงเรียน ซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะ รีบลุกขึ้นและวิ่งมาหลบที่หลังผม แต่คนร้ายก็ยังเข้ามายิง และยิงครูสมศักดิ์อีก ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก

          อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์ดังกล่าว ด้าน นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยว่า วันที่ 12 ธันวาคม ทางสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีการเรียกประชุมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเตรียมหาแนวทางหรือมาตรการในการยื่นเสนอขอความช่วยเหลือจากภาครัฐอีกที หลังจากที่เคยเรียกร้องมาตรการคุ้มครองครูไปแล้ว

          "เราจะเรียกประชุมใหญ่ ซึ่งจะเป็นทั้งประถมและมัธยม มาประชุมว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราจะเอายังไง และคาดว่าคงได้ข้อสรุปถึงแนวทาง" นายบุญสมกล่าว

          นอกจากนี้ ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เวลาประมาณ 07.20 น. ที่บ้านดามาบูเวาะ ม.1 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส  เหตุการณ์คนร้ายบุกยิงกราด ที่ร้านน้ำชา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 4 หนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเพียงเด็กหญิงวัยเกือบ 1 ขวบ คือ ด.ญ.อินฟานี สาเมาะ อายุ 11 เดือน  และยังมีเด็กชายอายุเพียง 10 เดือน ได้รับบาดเจ็บ

          ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุพบกองเลือดตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้น ถ้วยชามที่ใส่อาหาร และแก้วน้ำชาตกกระจายเกลื่อน นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16, อาก้า และเอสเคของคนร้าย ตกอยู่จำนวนกว่า 40 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีได้นำตัวส่งโรงพยาบาลระแงะไป ก่อนหน้าแล้ว

          และจากการสอบสวนนายปิยะวัฒน์ โมง เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านดามาบูเวาะ ซึ่งนั่งอยู่ในบ้าน ทราบว่า ระหว่างที่ ภรรยาของคนกำลังขายอาหารและน้ำชาอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนมาจอดหน้าร้าย จากนั้นก็กรูกันเข้ามาใช้อาวุธปืนกราดยิ่งใส่กว่า 40 นัดซ้อน ทำให้แม่ของตน ภรรยา หลาน และชาวบ้านที่เป็นลูกค้า ถูกกระสุนปืนจนล้มทั้งยืน ทั้งนี้เมื่อเสียงปืนสงบตนก็รีบพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน

          อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านน้ำชา รวมถึงเหตุการณ์ที่บุกยิงครูในโรงอาหารนั้น ทางสำนักข่าวต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น เอพี, เอเอฟพี, รอยเตอร์ส, วอลสตรีทเจอร์นัล, ซีเอ็นเอ็น และสื่อแทบทุกทวีปทั่วโลก ต่างตีข่าวรุมประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กอายุไม่ถึง 1 ขวบ อีกทั้งยังเลือกยิงเฉพาะคนพุทธ เจ้าหน้าที่หมู่บ้าน ตัวแทนหมู่บ้าน อาสาสมัครพลเรือนของรัฐ ทหาร ตำรวจ ครู ซึ่งในฐานะตัวแทนของรัฐ เพื่อต้องการให้ทุกคนหวาดกลัวจนย้ายหนีออกไปให้ได้มากที่สุด

          ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า จากการเปรียบเทียบในยุคที่ตนทำงานในพื้นที่ กับปัจจุบันนี้ถือว่าดีขึ้นมาก แต่กลุ่มก่อความไม่สงบก็ยังคงพยายามสร้างสถานการณ์ โดยเน้นให้เกิดเรื่องใหญ่ ๆ เท่านั้น การทำร้ายครูนั้นเป็นสิ่งที่คนร้ายมักลงมือ เพราะเป็นซอฟต์ทาร์เก็ต (กลุ่มเป้าหมายที่อ่อนแอ) ลงมือง่าย แต่ในพื้นที่ก็มีมาตรการในการป้องกันดูแล ทั้งนี้ ต้องมีการพูดคุยกันให้ชัดเจน โดยในวันที่ 13 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะลงพื้นที่เข้าไปร่วมแก้ไขสถานการณ์

          เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวความมั่นคงที่ปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาค ใต้ เปิดเผยว่า กลุ่มก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเป้าหมายโจมตีครู นอกจากสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวง โดยภาพรวมแล้ว ยังมีผลต้องการให้ครูชาวพุทธออกนอกพื้นที่ด้วย แล้วให้นำเอาครูที่เป็นมุสลิมในพื้นที่เข้าไปทำการสนเพื่อให้กลมกลืนกับ พื้นที่ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ประเพณีเกี่ยวกับครูสอนหนังสือในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ได้มีภาคเอกชนนักธุรกิจในพื้นที่เคยนำเสนอต่อภาครัฐ โดยให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เข้ามาเป็นครูสอน แต่ภาครัฐให้เหตุผลว่าเป็นภารกิจของครู

          ส่วนทางด้าน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารว่า ครม.เห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอ แล้วมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน 66,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหารถบรรทุก (ดีเซล) ขนาด 1 ตัน แบบดับเบิลแค็บ หุ้มเกราะกันกระสุนทั้งคัน จำนวน 33 คัน ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามผู้กระทำผิดใน พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน

          ท้ายนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปพบกลุ่มสตรีที่ปัตตานีในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ แต่ไม่มีการแจ้งว่าเดินทางไปที่ไหนบ้าง ล่าสุดหลังเกิดเหตุสังหารครูเพิ่มอีก 2 คน ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยของนายกฯ ประเมินอีกครั้งว่าจะยังลงพื้นที่หรือไม่ 

 




คลิป โจรใต้ กราดยิงร้านน้ำชา ดับ 5 ศพ 12 Dec 2012 : โพสต์โดย CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X