อาจารย์หนู กันภัย 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thebestamuletthailand.com

          อาจารย์หนู กันภัย ติดป้ายประกาศเลิกยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของวัดแม่ตะไคร้ เผย ที่ผ่านมาทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยคดโกงตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง 

          เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายสมพงษ์ กันภัย หรือ อาจารย์หนู นักสักยันต์ชื่อดัง ได้เข้ากราบไหว้พระเจดีย์และอัฐิของนายคูณและนางสว่าง กันภัย บิดามารดาผู้ล่วงลับ ก่อนทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล พร้อมทำพิธีเจิมหน้าผาก เป่าคาถา พรมน้ำมนต์ และสักยันต์ลูกศิษย์ ประชาชนทั่วไป เพื่อหาทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ที่วัดสันป่าค่า ต.ต้นเปา อ.ส้นกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้ร่วมพิธีกว่า 1,000 คน หลังพระใบฎีกาเทียนชัย เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ต.ทาเหนือ อ.แม่ออน ร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวหาว่า อาจารย์หนู ยักยอกเงินบริจาคเช่าวัตถุมงคล 300 ล้านบาท ที่ใช้สร้างวัด และอุทยานพระโพธิสัตว์หลวงปู่ทวด

          โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่าง ทำพิธี อาจารย์หนูและนายสมฤกษ์ กันภัย หรืออาจารย์นิด น้องชาย ได้สักยันต์ผู้จองคิว และลูกศิษย์กว่า 200 คน ตลอดทั้งวัน ตามรอยสักมหาบุญ มหากุศล ร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรม มีพระครูอดุลย์ จันทโชติ เจ้าคณะตำบลบวกค้าง อ.สันกำแพง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำรายได้เข้าวัดทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งมีการเปิดเทปบันทึกสัมภาษณ์ อาจารย์หนูกับพระใบฎีกาเทียนชัย ระหว่างก่อสร้างวัดแม่ตะไคร้ เมื่อหลายปีก่อนบนวิหาร เพื่อชี้แจงลูกศิษย์ และประชาชนผู้ร่วมพิธี

          ทั้งนี้ อาจารย์หนู เปิดเผยว่า พวกตนนำรายได้เช่าวัตถุมงคล และสักยันต์ เพื่อสร้างวัดแม่ตะไคร้มา 7-8 ปีแล้ว รวมมูลค่าหลายสิบล้านบาท บางครั้งไปสักยันต์ต่างประเทศ ก็นำเงินมาถวายพระใบฎีกาเทียนชัย เป็นเงินสดตลอด มีหลักฐานเป็นใบอนุโมทนาบัตร ระหว่างสร้างวัด ได้นำลูกศิษย์มาสักยันต์ที่วัด 20-30 ครั้ง เพื่อนำเงินบริจาคสร้างวัดรวม 30 ล้านบาท ไม่รวมเงินจากสำนักสักยันต์อีกจำนวนหนึ่ง

          กรณีสร้างหลวงปู่ทวด พวกตนได้มอบเงินให้ช่างหล่อตามสัญญาแล้ว 18.5 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีผู้บริจาคร่วมสร้าง 2-3 ล้านบาท ถือว่าหมดหน้าที่สร้างหลวงปู่ทวดแล้ว แต่ทางวัดไม่ได้นำองค์หลวงปู่ทวดประดิษฐานบนอาคารปฏิบัติธรรมเลย ส่วนเงินบริจาคเช่าวัตถุมงคล และสักยันต์จากสำนักสักยันต์ จ.ปทุมธานี ไม่ใช่เงินบริจาควัด และบางครั้งไปสักยันต์ต่างประเทศ ก็มีผู้บริจาคเงินส่วนตัวครั้งละ 1-2 ล้านบาท ตนก็เก็บเข้าบัญชีสะสมไว้ เพราะนั่นเป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงตน

          อาจารย์หนู กล่าวต่อว่า สำหรับ รายได้เช่าวัตถุมงคลผ่านร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น ทั่วประเทศนั้น ได้รับเงินเพียง 7 - 8% โดยเงินเข้าบัญชีครั้งละ 200,000 - 400,000 บาท และเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 13 ล้านบาท ส่วนเงินโอน 90 ล้านบาท จากบริษัท โอมมหารวย จำกัด ที่เป็นตัวแทนเช่าและจำหน่ายวัตถุมงคล ผ่านโฆษณาทีวีดาวเทียม และสื่อต่าง ๆ เพื่อขายตรง ทำมา 4 - 5 ปีแล้ว ไม่เกี่ยวกับเงินบริจาควัดแม่ตะไคร้ มีเอกสารหลักฐานชี้แจงทั้งหมด ซึ่งเงินที่เก็บสะสมไว้ ได้นำมาซื้อบ้าน ที่ดิน รีสอร์ท อสังหาริมทรัพย์ให้ภรรยาและบุตร ซึ่งตนไม่ได้ทำผิดตรงไหน เพราะไม่ได้ขโมยเงินใคร

          และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเจรจากับพระใบฎีกาเทียนชัย เพื่อยุติเรื่องดังกล่าวหรือไม่ อาจารย์หนู กล่าวว่า ถ้าเจรจาต้องผ่านเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ส่วนการดำเนินคดีเจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ข้อหาหมิ่นประมาท เป็นเรื่องฝ่ายกฎหมาย และลูกศิษย์สำนักสักยันต์ จะไม่ไปดูในรายละเอียด แต่ไม่ไปเกี่ยวข้องสร้างวัดแม่ตะไคร้และหลวงปู่ทวดอีก

          อย่างไรก็ตาม ได้มีรายงานเพิ่มเติมว่า ที่บริเวณหน้าศาลาทำพิธี อาจารย์หนู ได้ติดป้ายประกาศให้ผู้มาร่วมงานได้รับทราบ 3 ข้อ โดยระบุว่า

          1. ตามที่อาจารย์หนู กันภัย ได้รับเป็นประธานหล่อพระหลวงปู่ทวดปางธุดงค์ ณ วัดแม่ตะไคร้ อำเภอแม่ออน ตั้งแต่ปี 2553 นั้น บัดนี้การหล่อหลวงปู่ทวดได้ดำเนินการเสร็จสิ้น และได้มอบให้ทางวัดดำเนินการต่อไป โดยอาจารย์หนู กันภัย ได้หมดหน้าที่เป็นประธานงานหล่อแล้ว

          2. กิจกรรมใด ๆ ของวัดแม่ตะไคร้ที่ทางวัดจัดขึ้นอีก อาจารย์หนู กันภัย มิได้เกี่ยวข้อง

          3. การสักยันต์ของสำนักงานอาจารย์หนู มิได้อนุญาตให้ผู้ใดไปสักยันต์นอกสำนักงาน

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม