ศศิน แนะ อธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่ ตรวจสอบคนใน-ไล่รื้อรีสอร์ทรุกล้ำ
2012-11-01 10:55:21
Advertisement
คลิก!!!


 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Sasin Chalermlarp

         ศศิน ฝากอธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่ สานต่อเจตนารมณ์ ดำรงค์ พิเดช พร้อมให้การบ้าน ตรวจสอบเอกชนยึดครองพื้นที่อุทยานฯ - ไล่รื้อรีสอร์ทรุกล้ำพื้นที่ - หาคนทำงานที่ไม่ยึดหลักการมากเกินไป และลงพื้นที่คล่อง

         หลัง จากที่ นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือที่รู้จักกันว่า อธิบดีผู้ตงฉิน ได้เกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้ตำแหน่ง "อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ" นั้น ถูกจับตามองเป็นอย่างมากว่า ใครจะเป็นคนสานต่อเจตนารมณ์ของนายดำรงค์...

         อย่างไรก็ดี นายศศิน เฉลิมลาภ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผ่านหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ว่า... "ไป ๆ มา ๆ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนต่อไปที่ต้องทำงานต่อจาก "คุณดำรงค์ พิเดช" ก็กลายเป็นตำแหน่งที่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้กำลังถูกเฝ้ามองว่า "ใคร" จะมาทำงานต่อเนื่องกับคุณดำรงค์ หรือมาเปลี่ยนแปลง "ปรากฏการณ์ดำรงค์ พิเดช" จนป่านนี้...ก็ไม่รู้ว่าใครจะมานั่งเก้าอี้ร้อน ๆ หรือเขารอจนอุ่นเย็นเสียก่อน ค่อยตั้งก็ไม่รู้

         แน่นอนว่า ในปรากฏการณ์ดำรงค์ ที่ทำให้สถานการณ์ป่าเมืองไทยมีสีสันอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็มีทั้งฝ่ายบวก ฝ่ายลบ คิดเห็นต่างกัน ผมลองสำรวจความเห็นของตัวเองในฐานะของคนนอกที่ทำงานเกี่ยวข้องว่า อยากให้อธิบดีคนใหม่ทำอะไรต่อจากคุณดำรงค์

         1. จัดการตรวจสอบพื้นที่เอกชนที่ยึดถือครอบครองในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่าอย่างต่อเนื่อง แต่งตั้งคณะทำงานเจ๋ง ๆ จากภายนอกมาร่วมทำงาน และสร้างกรอบการทำงานที่สามารถตอบคำถามสังคมว่า หากไม่ทุบทิ้งจะมีวิธีไหนที่ทำให้ได้พื้นที่ที่ทำหน้าที่ป่าคืนให้คนไทย แต่ทำให้ทุกฝ่ายยอมรับ โดยไม่ต้องเกี้ยเซี้ย เบี่ยงไปเป็นการเช่า หรือผ่อนผันกันไม่รู้จบ แต่อาจจะเป็นการสร้างข้อตกลงแบบที่สังคมยอมรับบนหลักการทางกฎหมาย และการมีส่วนร่วมบนหลักนิติธรรม

         2. ไล่รื้อธุรกิจท่องเที่ยวรีสอร์ทในพื้นที่อุทยานฯ ถ้าจะให้สวย มันน่าจะมีการตรวจสอบบุคลากรที่ทำหน้าที่ควบคุมภายในกรมเอง ที่มีการปล่อยปละละเลยควบคู่ไปกับการตรวจสอบเอกชนให้ชัดเจนด้วยว่า หากปัญหาเกิดจากการทำงานของคนในเองก็ต้องมีมาตรการจัดการเช่นกัน

         3. แยกแยะพื้นที่ปัญหาทับซ้อนชุมชนชาวบ้านออกจากพื้นที่บุกรุกโดยนายทุน ด้วยการวางแผนแก้ไขปัญหาบนรัฐธรรมนูญที่บัญญัติมาตรารับรองสิทธิชุมชน ค่อย ๆ ดำเนินการโดยอาศัยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่อนผันอนุโลมให้ชุมชนอยู่ และค่อย ๆ หาทางควบคุมมิให้ขยายออกโดยไม่เปลี่ยนมือ

         4. อธิบดีคนใหม่ควรปรับทัศนคติเรื่องบุคลากรที่จบจากสถาบันการศึกษาสายวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโรงเรียนป่าไม้ จ.แพร่ เพราะเป็นเรื่องที่จบมานับสิบปี ความรู้ความสามารถที่เรียนมาคงไม่ต่างกันมาก แต่ต้องพิจารณาการทำงานจากผลงานที่ผ่านมา ผมเคยเจอคนที่จบจากป่าไม้แพร่หลายคนที่ทำงานดีมีอุดมการณ์ ทำงานได้ ตัดสินใจเด็ดขาด ในขณะที่นักวนศาสตร์หลายคนก็มัวแต่อิงหลักการจนทำงานไม่คล่อง ที่ผ่านมาก็มีเรื่องรุ่นโน้นรุ่นนี้ทะเลาะกัน มาตั้งหลักกันใหม่บนเหตุผล และความเหมาะสมแต่ละบุคคล

         5. ปัญหาใหญ่ของกรมนี้อีกเรื่องคือ เงินทุน และเรื่องอัตราจ้างที่ไม่มีคนทำงานจริง ที่เรียกว่า "ผี" จริง ๆ ปัญหานี้อาจจะมีในทุกกรม แต่กรมนี้เกี่ยวข้องกับทรัพยากรสำคัญ ค่อย ๆ ปรับ ไม่รับส่งนาย ไม่เก็บก๊อก ค่อย ๆ ลดเรื่องอย่างนี้ลงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ผมว่าจะได้ใจคนทำงานส่วนใหญ่ แต่อย่างว่าปัญหาแบบนี้จะให้จบให้หมดแบบเบ็ดเสร็จเป็นไปไม่ได้ แต่หากอธิบดีมาจากคนทำงาน ผมก็ว่าน่าจะพอทำได้

         6. เรายังเก็บป่าที่สำคัญ ทรัพยากรทางชีวภาพระดับโลกไว้ได้พอสมควร งานที่ไม่ชัดคือ งานศึกษาวิจัย ทำให้ป่าของเราเป็นป่าที่มีคุณค่าในด้านทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพใน ระดับโลก ให้มีงานวิจัยออกมาให้ประจักษ์ เพื่อรักษาป่าไว้อย่างถาวร ไม่ใช่เอะอะก็ให้กรมชลประทานมาขอทำเขื่อนกันง่าย ๆ แบบเขื่อนแม่วงก์ เขื่อนแก่งเสือเต้น

          7. อย่าลืมเรื่องสวัสดิภาพสวัสดิการเจ้าหน้าที่และลูกจ้างพิทักษ์ป่า ตลอดจนแม่บ้านในพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการทำงานรักษาป่า

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X