เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรื่องราวเบื้องหลังซีรีส์ออริจินัลของ Netflix เรื่อง 'A Killer Paradox' ได้ถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการคัดเลือกนักแสดงเด็กที่มารับบทของ ซนซอกกู (Son Suk Goo) ในวัยเยาว์ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมว่าเลือกได้หน้าตาคล้ายกันมาก ๆ

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจึงได้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งความจริงแล้วนักแสดงเด็กคนดังกล่าวไม่มีอยู่จริง แต่เป็นการใช้เทคโนโลยี Deepfake สร้างหน้าตาเสมือนจริงขึ้นมา โดยใช้การประมวลผลของคอมพิวเตอร์และ AI (Deepfake เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีการสังเคราะห์ภาพมนุษย์โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์)

แม้จะมีความสนใจในตัวนักแสดงเด็กมากขึ้น แต่ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่แสดงเป็นตัวละครดังกล่าวยังคงเป็นปริศนา ผู้กำกับ 'A Killer Paradox' อีชางฮี (Lee Chang Hee) จึงได้ให้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ในระหว่างการพบปะกับนักข่าวเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ผู้กำกับอีชางฮี ชี้แจงว่า “ในส่วนของการแสดงนั้นดำเนินโดยนักแสดงเด็ก และใช้เทคโนโลยี CG (deepfake AI) โดยประมวลจากภาพถ่ายวัยเด็กของ ซนซอกกู (มาทำให้หน้าเหมือน) ครับ”

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า “ในภาพยนตร์และละครเป็นเรื่องปกติที่จะใช้นักแสดงเด็กคนอื่น ๆ มารับบท อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาดูไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลยครับ ซึ่งสิ่งนี้ (นักแสดงเด็กที่ดูไม่เหมือนนักแสดงผู้ใหญ่) มักเป็นที่ยอมรับในวงการภาพยนตร์และละครครับ”

เขาเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม ผมไม่ใช่แฟนตัวยงของการยอมรับในเรื่องนี้ครับ แม้เทคโนโลยี CG ดูเหมือนจะเป็นแนวทางที่ยังไม่ได้รับการสำรวจอย่างกว้างขวางในประเทศ แต่เราก็ได้ลงทุนอย่างมากในความพยายามนี้เพื่อที่จะปรับปรุงความสมจริงครับ”

ผู้กำกับอีชางฮี ยังกล่าวอีกว่า “เราได้ใช้เทคนิคนี้กับภาพถ่ายในอดีตของตัวละครคยองอา (Kyung Ah) และนักแสดงเด็กโนบิน (Novin) อีกด้วยครับ”

อนึ่ง 'A Killer Paradox' เป็นซีรีส์ต้นฉบับของ Netflix ที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนในชื่อเดียวกันของนักเขียน Kkomabi บอกเล่าเรื่องราวของ อีทัง รับบทโดย ชเวอูซิก (Choi Woo Sik) ที่กลายมาเป็นฆาตกรโดยไม่ได้ตั้งใจ และนักสืบจางนัมกัม รับบทโดย ซนซอกกู ที่กำลังไล่ล่าเขา

ที่มา  wikitree