เมื่อกาลเวลาผ่านไป ทุกอย่างบนร่างกายก็โรยราไปตามกาลเวลา สาว ๆ เคยสังเกตกันหรือเปล่าคะ ว่าดวงตาคู่สวยของคุณ ก็เริ่มหย่อนคล้อยลงไปตามกาลเวลาด้วย แต่ก็อย่างว่านะคะ เรื่องความสวยความงามนี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของสาว ๆ การทำศัลยกรรมหนังตา และถุงใต้ตา จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยลดปัญหาการหย่อนคล้อยริ้วรอยของดวงตาให้สาว ๆ ในปัจจุบัน

รู้แบบนี้แล้ว หลายคนคงรีบหันไปหยิบกระจกมาส่องกันใหญ่เลยใช่ไหมคะ ว่าดวงตาคู่สวยของสาว ๆ นั้น มีริ้วรอยกันบ้างหรือยัง ? เอ๊ะ... ว่าแต่ว่าศัลยกรรมหนังตา คืออะไร สาว ๆ รู้จักกันหรือยังค่ะ ถ้ายังวันนี้กระปุกดอทคอม จะพาไปรู้จักการทำศัลยกรรมหนังตา และถุงใต้ตากันค่ะ

ศัลยกรรมหนังตา เป็นการผ่าตัดเอาหนังตาส่วนเกินออกไป เพื่อนำถุงไขมันใต้ตาบางส่วนออกไป ซึ่งช่วยให้ดวงตาดูอ่อนวัยขึ้น

การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรม

- สำรวจนตัวเองว่ามีจุดบกพร่องส่วนไหนของหนังตา เช่น หนังตาอูม หนังตาตก ชั้นตาไม่เท่ากัน มีถุงไขมันใต้ตาเยอะเกินไป รอยย่นรอบดวงตา หรือหางตาตก เป็นต้น

- ห้ามอดอาหาร ควรรับประทานอาหาร แต่ควรทานไม่ให้อิ่มเกินไป

- ผู้ที่มีประวัติการใช้ยาจำพวก แอสไพริน หรือ วิตามิน อี ควรหยุดยาก่อนการผ่าตัด 2 อาทิตย์ เพราะอาจมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่น ๆ ตามความเหมาะสมในแต่ละบุคคล

จะเป็นอย่างไร เมื่อทำศัลยกรรมหนังตา และถุงใต้ตาแล้ว

หลังทำการผ่าตัด จะมีเพียงรอยแผลเล็ก ๆ บริเวณใต้ขนตาล่าง อาจมีอาการบวม และช้ำเล็กน้อยบริเวณใต้ดวงตา หลังการผ่าตัด ซึ่งจะค่อย ๆ จางหายไปได้เองภายใน 2 วัน -1 อาทิตย์ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางรายพบอาการปวดเล็กน้อย ซึ่งสามารถบรรเทาอาการโดยการรับประทานยาที่แพทย์จัดให้ การประคบความเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ลดอาการบวมช้ำได้ ทั้งนี้ แพทย์จะนัดหมายให้ไปตัดไหมหลังทำการผ่าตัดประมาณ 5 - 6 วัน

แต่สำหรับใครที่อยากหายเร็วหลังการผ่าตัด ในปัจจุบันก็ได้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยในการผ่าตัด ที่ถือว่าง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย และสวยงามมากขึ้น เรียกว่า "Lunch - time Blepharoplasty" ซึ่งใช้เวลาในการทำผ่าตัด เพียง 20 นาที สามารถกลับบ้านได้เลย ซึ่งจะไม่มีบาดแผล ไม่มีรอยเย็บแผล และทำให้ทำตาสองชั้นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย

การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมหนังตา และถุงใต้ตา

1. ประคบเย็นบริเวณหนังตาบ่อย ๆ โดยเฉพาะ 2 วันแรก เพราะความเย็นจะทำให้อาการบวมลดน้อยลง และหายเป็นปกติได้เร็ว

2. ควรรับประทานยาแก้ปวด เพราะปกติหลังการผ่าตัดจะมีอาการปวดตึง ๆ เล็กน้อย

3. สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ เพราะน้ำโดนแผลได้ แต่ที่น้ำมาล้างหน้าต้องเป็นน้ำสะอาดที่สุด

4. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรืออาหารที่เผ็ดจัด เพราะจะทำให้มีความดันเลือดสูงขึ้น อาจทำให้มีเลือดออกจากแผล

5. อาจมีการหยุดทำงานไปก่อน ประมาณ 7 วันหลังผ่าตัด

6. อย่าเผลอไปขยี้ตา เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเข้าตา และแผลเจ็บได้

ทั้งนี้ การทำศัลยกรรมใด ๆ ก็ตาม ล้วนแล้วจะมีผลเสียตามมา ฉะนั้นก่อนเลือกและตัดสินใจทำศัลยกรรมก็ควรพิจารณาทั้งสถานที่ และผลเสียที่อาจจะเกิดตามหลังการทำมาเสียก่อน ว่ามีอะไรบ้าง โดยเฉพาะคนที่มีอายุตั้งแต่วัยกลางคนขึ้นไป มักจะมีปัญหาเรื่องคิ้วตกร่วมด้วย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องตาด้วย การพิจารณาส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าร่วมด้วยก็จะเป็นผลดีนะคะ เพื่อใบหน้าที่สวยงามนั้น จะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ไงค่ะ

ข้อมูลจาก

www.kapook.com