ตามที่ได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ในระหว่างการถ่ายทอดสดครบรอบ 9 ปี ถึงอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของ Red Velvet ที่ได้รับการคาดหวังอย่างสูงว่าได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตแล้ว และแฟน ๆ ต่างก็สงสัยแล้วว่าอัลบั้มนี้จะอยู่ในด้าน "Red" หรือ "Velvet" กันแน่?

คอนเซ็ปต์ของ Red Velvet ที่ไม่ซ้ำใคร ถูกเน้นย้ำเมื่อเร็วๆ นี้ในระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกของพวกเธอ "R to V" ซึ่งเกี่ยวกับการพาผู้ชมของพวกเขาเดินทางผ่าน "Red" ด้านสีแดงที่สดใส ขี้เล่น และสนุกสนาน และ "Velvet" ด้านกำมะหยี่อันทรงพลัง เย้ายวน เซ็กซี่ และเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ รายการเซ็ตที่ย้อนกลับได้ของทัวร์ขอให้ผู้ชมพิจารณาว่าเพลงไหนเป็นสีแดงและเพลงไหนเป็นเพลงกำมะหยี่จากรายชื่อผลงานของกลุ่ม และอย่างที่ Red Velvet แสดงให้เห็นอย่างเชี่ยวชาญ มันไม่ได้ค่อนข้างเป็นขาวดำหรือเป็นสีแดงและกำมะหยี่อย่างที่คิด ต่อไปนี้เป็นห้าเพลง “red” ของ Red Velvet ที่สามารถเข้ากับด้าน “velvet” ของพวกเธอได้อย่างง่ายดาย

Time Slip

เมื่อผู้คนนึกถึง R&B และ Red Velvet ด้าน Velvet ของพวกเธอมักจะเป็นที่นึกถึงเสมอ เมื่อมองแวบแรก ด้าน Velvet ของพวกเธอจะห่อหุ้มเพลงอาร์แอนด์บีที่ช้ากว่าเหมือนกับเพลง "Bad Boy" อันเป็นที่รักของพวกเธอ อย่างไรก็ตาม "Time Slip" ท้าทายการเล่าเรื่องนี้ สาวๆ ดึงดูดคุณด้วยเสียงไซเรนขณะร้องเพลงเกี่ยวกับการอยู่ในโลกแห่งความฝันที่พวกเธอสร้างขึ้นเอง เต็มไปด้วยการประสานเสียงสวรรค์ผ่านดนตรีแนวฮิปฮอปอาร์แอนด์บี ซึ่งให้ความรู้สึกชวนให้นึกถึงด้าน Velvet ของพวกเธอ แม้ว่าเพลงจะดูสดใสในตอนแรกก็ตาม

Sassy Me

เพลงป๊อปแดนซ์ Sassy Me เผยให้เห็นด้าน Red ของพวกเธอ อย่างไรก็ตาม เนื้อเพลงและเสียงร้องที่เซ็กซี่ของเพลงช่วยเสริมความมั่นใจที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้าน Velvet ของพวกเธอ เพลงนี้กระตุ้นให้ผู้ฟังสร้างโชคชะตาของตัวเองและเชื่อมั่นในตัวเองว่าพวกเขาเจ๋งและมั่นใจ เทียบเท่ากับการทาลิปสติกสีแดงและแจ็กเก็ตหนังที่คุณชื่นชอบและยึดครองโลก

Beg for me

แม้ว่าเพลง "Beg For Me" จะฟังดูสดใสเพียงพอสำหรับการอยู่ในด้าน Red แต่เสียงร้องและท่าเต้นที่ทรงพลังและมั่นใจของเพลงนี้ก็เข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในด้าน Velvet เช่นกัน ในรายการเพลงระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกของพวกเธอ คล้ายกับ Time Slip เพลงนี้ท้าทายให้ผู้ชมมองข้ามแนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับแนวคิด Velvet ของพวกเธอ และดูว่ามันผสมผสานกับด้าน Red ของพวกเธอได้เป็นอย่างดี

La Rouge

ด้วยชื่อของเพลงนี้ที่แปลได้ว่า "The Red" ใครๆ ก็คิดว่า "La Rouge" จะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในด้าน Red ของพวกเธอ ควบคู่ไปกับเพลงฮิตอย่าง "Red Flavour" และ "Power Up" อย่างไรก็ตาม ด้วยเสียงกีตาร์ที่หรูหราและโน้ตเสียงสูงที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของเวนดี้ในการเปิดเพลง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า "La Rouge" จะทำให้ผู้ฟังหลงใหลในทิศทางตรงกันข้ามได้ในทันที การประสานเสียงของพวกเธอดึงดูดคุณในขณะที่มีเสียงแอดลิบเสียงกระซิบต่ำๆ อยู่เบื้องหลัง ทำให้คุณตื่นตะลึงได้ตลอดทั้งเพลง และถ่ายทอดความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่และเซ็กซี่กว่าในช่วงสุดท้าย

Pose

Pose ถ่ายทอดความรู้สึกที่มีพลังที่น่ารักของด้าน Red พร้อมด้วยเอฟเฟกต์เสียงแปลก ๆ ที่ผสมเข้ากับเครื่องดนตรีของแทร็กได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม เสียงร้องที่ต่ำราวกับความฝันของ Red Velvet และเนื้อเพลงที่มั่นใจในตัวเองทำให้เพลงนี้มีกลิ่นอาย Velvet ซึ่งทำให้เพลงนี้เปิดด้าน Velvet ของการทัวร์ "R to V" ของพวกเธอได้เป็นอย่างดี

ที่มา  soompi