ยุนชานยอง (Yoon Chan Young) ได้ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานในซีรีส์เรื่อง All Of Us Are Dead, ผู้หญิงในอุดมคติ และอีกมากมาย ในบทสัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้

All Of Us Are Dead ซีรีส์ Netflix เล่าเรื่องของกลุ่มนักเรียนที่รอความช่วยเหลือหลังจากมีไวรัสซอมบี้ระบาดในโรงเรียน หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มกราคม ซีรีส์ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในชาร์ต Netflix 25 ประเทศทั่วโลก

ยุนชานยอง รับบทเป็น ซองซาน นักเรียนที่บุคลิกนิ่ง เขาแอบชอบ อนโจ (รับบทโดย พัคจีฮู (Park Ji Hu)) มานาน และทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเขา

ยุนชานยองกล่าวขอบคุณผู้ชม เขาบอกว่า “ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยครับ ผมรู้สึกมีความสุขที่ผมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่ทำให้ผู้ชมสนุก ผมขอบคุณมาก และแต่ละวันดูแตกต่างออกไป ผมได้ทำอะไรใหม่ๆ และผมคิดถึงความทรงจำที่ยอดเยี่ยมระหว่างอยู่ในกองถ่าย”

เขายังได้เล่าว่าตัวเองมาร่วมงานในเรื่องนี้ได้อย่างไร “มันเหมือนหนังเลยครับ ผมกำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยและเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมาก ผมรู้สึกว่าตัวเองยังดีไม่พอ แต่ก็อยากทำให้เต็มที่ ผมเลยฝึกซ้อมอย่างหนัก ผมยื่นสมัครสอบเข้ามหา’ลัยล่วงหน้าไม่กี่แห่ง แต่ผลออกมาไม่ดีเท่าไหร่ครับ ผมผิดหวังและโทษตัวเอง แต่ก็ปลุกตัวเองให้กลับมาสู้อีกครั้ง ขณะที่ผมกำลังทำเรื่องนี้อยู่ ผมก็ได้ยินว่ามีการออดิชั่นเรื่อง All Of Us Are Dead ผมคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีในการทดสอบตัวเอง ผู้กำกับอยากเจอผมเพราะได้ยินนักแสดงคนอื่นบอกว่าผมทำงานเข้ากับนักแสดงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันได้ดี หลังจากออดิชั่นไปประมาณ 30 นาที ผู้กำกับบอกว่า ‘ฉันคิดว่าพวกเขาพูดถูกนะ’ ผมได้รับโทรศัพท์หลังจากนั้น 2 เดือน และผมมีความสุขมากเลยครับ ผมได้รับการตอบรับเข้าเรียนจาก Hanyang University ด้วย มันเลยเป็นปีที่มีความหมายกับผมมากเลยครับ”

ยุนชานยองได้วิเคราะห์ตัวละครของเขาในมุมมองที่ลึกซึ้งว่า “ผมคิดว่าอีชองซานเป็นนักเรียนที่รักความถูกต้องและมีความคิดและความเชื่อในตัวเอง ผมคิดว่าเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์ที่ยากลำบากเพราะมีนิสัยแบบนี้ ชองซานพร้อมแลกชีวิตเพื่อปกป้องอนโจ และผมพยายามจำ [ความคิดของตัวละครมุมนี้] เอาไว้ตลอดเวลาครับ”

เมื่อถามว่าเขาเคยตกหลุมรักใครหรือไม่ ยุนชานยองบอกว่า “ผมได้ดูเรื่อง ‘La La Land’ ก่อนเข้าเรียนมัธยมปลาย และผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นงดงามมาก ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง แต่ผมคิดว่าหนังเรื่องนั้นทำให้หัวใจเจ็บปวดมาก แต่ก็ยังสวยงาม ผมคิดว่าผมอยากจะมีความรักแบบนั้น แต่หลังจากได้เข้าเรียน ม.ปลาย ผมใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเรียนและการฝึกฝน ไม่ใช่ว่าผมไม่สนใจเรื่องเดทนะครับ แต่ว่าผมชอบการแสดงมากกว่า ผมไปโรงเรียนศิลปะ ผมคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตเหมือนเด็กศิลป์ที่อยู่ในซีรีส์ครับ”

เขายังได้พูดถึงผู้หญิงในอุดมคติของตัวเองว่า “ผมไม่สามารถตัดสินได้ว่าอะไรคืออุดมคติครับ ผมคิดว่าผมได้เรียนรู้เรื่องความรักผ่านหนังเรื่อง ‘La La Land’ ผมเลยคิดว่าคนในอุดมคติของผมน่าจะเป็นคนที่เข้าใจกันได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ”

ยุนชานยอง ยังได้พูดถึงเรื่องที่ พัคจีฮู จะมาเป็นรุ่นน้องของเขาที่มหาวิทยาลัย “ผมพูดเกี่ยวกับมหา’ลัยไปเยอะมาก เอกภาพยนตร์และการละครของ Hanyoung University ไม่ได้ซ้อมการแสดงแค่ในหน้าจอเท่านั้น มันเป็นการเรียนรู้องค์ประกอบทั้งหมดที่ทำให้เกิดเป็นละครและภาพยนตร์ ผมได้ยินเรื่องนี้มาจากรุ่นพี่ในมหา’ลัยเหมือนกัน และผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมสนใจ Hanyoung University ผมดีใจที่จะได้เจอพัคจีฮูในฐานะรุ่นน้อง และผมอยากจะแสดงความยินดีกับเธอด้วย”

ในซีรีส์มีเนื้อหาที่พูดถึงปัญหาหลายอย่าง รวมถึงความไม่รับผิดชอบต่อสังคมของผู้ใหญ่ ยุนชานยองได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “มันมีเหตุผลที่นักเรียนคือนักเรียน นักเรียนคือคนที่อยู่ในขั้นตอนของการเรียนรู้ พวกเขากำลังเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์ที่จะต้องเจอในสังคมจริง เราได้เรียนรู้จากเพื่อนหลายอย่าง แต่ผมคิดว่าเราต้องการผู้ใหญ่ช่วยแนะนำเพื่อให้เรากลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ ผมคิดว่าผู้ใหญ่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ คือคนที่ไม่คิดถึงมุมมองของนักเรียน และไม่คิดจะทำความเข้าใจ ผมคิดว่าการให้คำแนะนำที่จำเป็นเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าพวกเขาพูดสิ่งที่คนอื่นไม่อยากฟังเมื่อไหร่ มันจะกลายเป็นคุณกำลังใช้อำนาจความเป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้ผมก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมคิดเสมอว่าอะไรที่ทำให้คนคนนึงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบได้”
 

ยุนชานยองยังได้พูดถึงความทรงจำที่เขามีร่วมกับเพื่อนนักแสดงในกองถ่ายว่า “พวกเราเป็นเพื่อนนักแสดง และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราแบ่งปันความคิดเห็นกันในแต่ละฉาก และเราเคารพกันและกัน ผมรู้สึกประทับใจมากตอนที่พวกเขาบอกผมว่าพวกเขาเคารพผมเวลาผมทำงานในกองถ่าย”

เมื่อถามว่าชองซานตายในตอนจบของซีรีส์หรือไม่ ยุนชานยองบอกว่า “จริงๆผมถูกถามมาแล้วในบทสัมภาษณ์ก่อนหน้าว่าชองซานจะตายหรือเปล่า พูดตามตรง ผมไม่รู้ครับ ผมไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดต่อจากนั้น และยังไม่มีการตัดสินใจอะไรเลย ส่วนตัวแล้ว ผมอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อนะ ผมอยากจะอยู่ต่อเพื่อพูดสิ่งที่ผมยังไม่ได้พูด”

ยุนชานยองปิดท้ายด้วยการพูดถึงเส้นทางนักแสดงของเขา และเป้าหมายในอนาคต “ผมได้เรียนรู้หลายอย่างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่หลังจากได้แสดงในบทหลัก ผมคิดว่าผมมีความรับผิดชอบมากขึ้น และได้เรียนรู้จากความกดดัน ผมรู้สึกขอบคุณ และผมพยายามจะเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้จากประสบการณ์นี้ สำหรับเป้าหมายของผม ผมคิดว่าเป้าหมายและความฝันแตกต่างกัน เป้าหมายของผมคือการเป็นนักแดสง ส่วนความฝันของผมคือได้ทำงานกับผู้กำกับเรื่อง La La Land มันรู้สึกดีมากที่คิดว่ามีคนหลายคนทั่วโลกได้ดูผลงานที่มีผมเป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วย มันทำให้ผมคิดว่าผู้กำกับอาจจะเห็นผมเหมือนกัน ผมรู้สึกขอบคุณในทุกวัน และมันเหมือนเป็นของขวัญ ปีนี้เป็นปีที่ผมอยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ผมเป็นคนอย่างไร มีหลายอย่างมากที่ผมอยากแสดงออกไป ผมมีความสุขที่หลายคนสนใจในตัวตนของผม ได้โปรดติดตามกันด้วยนะครับ”

ที่มา ( 1 )( 2 )( 3 )