บทสัมภาษณ์ จอน เบิร์นธัล (ริค มัคชี) ใน KING RICHARD
2022-02-14 08:45:09
Advertisement
คลิก!!!

คำถาม: คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้อ่านบท King Richard เป็นครั้งแรก มีอะไรที่ตรงกับตัวคุณเป็นพิเศษไหมครับ

 

จอน เบิร์นธัล: ผมชอบบทหนังเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเลยครับและเป็นบทที่ผมอยากคว้ามาให้ได้ด้วย เพราะผมเองก็เป็นพ่อและเป็นสามี ผมเคยเป็นนักกีฬามาก่อน ผมเล่นกีฬาช่วงไฮสคูลและช่วงวิทยาลัย ผมคิดว่าเรื่องนี้ภาพสะท้อนที่งดงามของการเป็นพ่อ การเป็นผู้ปกครอง และการเลี้ยงดูลูกที่เป็นนักกีฬา หนังเรื่องนี้สำรวจทั้งความงามและด้านมืดของวงการกีฬารุ่นเยาว์ ซึ่งผมคุ้นเคยและรู้ซึ้งเป็นอย่างดีเลย และผมก็ทึ่งกับตัวละครริค [มัคชี] ผมว่าเขามีความพิเศษบางอย่างที่เป็นเหตุผลให้ริชาร์ด วิลเลียมส์ ผูกพันกับเขา

 

ความรักที่เขามีต่อกีฬาชนิดนี้ปรากฏชัดเจนและไม่มีวันจางหาย ผมอยากสำรวจในแง่นี้ครับ เป็นสิ่งที่ไม่เหมือนใคร และผมคิดว่าบทก็เขียนออกมาได้ดี แล้วพอผมได้รับบท รับงานนี้ และศึกษาข้อมูลทั้งเรื่องเทนนิสและสำเนียงท้องถิ่น ผมก็รู้สึกมีความสุขมาก มันสนุกมากครับ เป็นงานประเภทที่หาได้ยากจริงๆ ยิ่งทำไปคุณก็ยิ่งรู้สึกว่าทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งได้พบผู้คน ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนนักแสดง จนกระทั่งสุดท้ายเข้าไปที่กองถ่ายและได้พบทีมงาน… ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ และผมคิดว่าทุกคนมีความกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างที่เราอยากจะให้เป็นในการทำงานทุกๆ ครั้ง คุณไว้วางใจในตัวทุกๆ คน และต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ช่วยให้คุณปล่อยของได้อย่างเต็มที่ เราทำได้ถึงจุดนั้นในหนังเรื่องนี้ซึ่งทุกคนที่เกี่ยวข้องต่างก็สัมผัสได้

 

คำถาม: ช่วยอธิบายถึงริคสักหน่อยได้ไหมครับ

 

จอน เบิร์นธัล: เซเรนา วิลเลียมส์ บอกผมว่าการฝึกที่สถาบันของริคเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต ผมมองว่าเขาเป็นโค้ชที่มีแง่มุมซึ่งงดงามและพิเศษสุด เขารักในกีฬาชนิดนี้และทำให้มันเป็นเรื่องสนุก จริงอยู่เขาต้องการให้นักกีฬาฝึกหนัก เขาต้องการความเข้มแข็ง แต่นั่นก็เพราะเทนนิสสำคัญมากสำหรับเขา เพราะเขารักมันมาก ทุกสิ่งเป็นเกม ทุกสิ่งเป็นความท้าทาย ทุกสิ่งเป็นเรื่องบวก ทุกสิ่งคือการค้นหาว่า “คุณจะไปได้ไกลกว่านี้ไหม”

 

ในโลกเรามีโค้ชอยู่หลายประเภท ผมเคยเจอโค้ชจอมบงการที่คอยข่มผมตลอดเวลาและให้ผมฝึกหนักสาหัส แล้วก็มีโค้ชที่พยายามทำตัวเหมือนเป็นเพื่อนสนิทและอาจจะพยายามมากเกินไป...แต่ริคเป็นโค้ชอีกแบบหนึ่ง โค้ชประเภทนี้ไม่สนใจว่าเขาจะถูกนำไปล้อเลียน เขาแค่อยากให้บรรยากาศดูสบายๆ แต่ก็จริงจังและสนุกด้วย ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังและเกิดขึ้นในชีวิตจริงด้วย ก็คือเขาได้มอบความรักให้กับครอบครัวนี้และเด็กผู้หญิงทั้งสองคน เขาทึ่งในความสามารถของพวกเธอและเชื่อมั่นในตัวพวกเธอมากจนกระทั่งอยากมีส่วนช่วยสนับสนุนด้วย เขาเป็นตัวละครที่งดงามครับ

 

คำถาม: ริคกับริชาร์ด วิลเลียมส์มีความสัมพันธ์กันในลักษณะไหนครับ

 

จอน เบิร์นธัล: ทั้งคู่เป็นคนนอกแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ทั้งคู่เชื่อมั่นเต็มร้อยว่าตัวเองรู้วิธีการที่ถูกต้องในการจัดการสิ่งต่างๆ เป็นนายใหญ่ในโลกของตัวเอง ดังนั้นผมคิดว่าถ้าเรานำสองคนนี้มาเจอกันต้องเกิดการปะทะกันแน่ แต่สิ่งที่งดงามก็คือเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ได้เกิดความชื่นชม ความเคารพ และความเป็นพี่เป็นน้องกันขึ้นมา แต่ต่างฝ่ายต่างก็เชื่อว่าอีกฝ่ายไม่รู้จริงในสิ่งที่ตัวเองทำ ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของหัวหน้าโค้ช พวกเขาเชื่อในแผนการของตัวเองแบบเต็มร้อย ถึงอย่างนั้นผมคิดว่าจุดตัดหรือจุดที่เชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกันก็คือทั้งคู่ต่างรักในกีฬาชนิดนี้และยกให้ความสนุกในเกมการแข่งขันมากเป็นอันดับแรกเสมอ

 

คำถาม: คุณฟิตร่างกายอย่างไรบ้างครับ คุณต้องพัฒนาฝีมืออย่างไรบ้างไหม

 

จอน เบิร์นธัล: ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยดีนักครับ ผมเป็นอดีตนักกีฬา เรนัลโดก็เป็นอดีตนักกีฬา เราเข้าใจกันดีในเรื่องนั้น เขาต้องการให้การเล่นเทนนิสออกมาดูสมจริง...ซึ่งผมก็คิดเหมือนกันในทุกๆ งานที่ผมทำ ผมอยากให้การแสดงออกทางร่างกายออกมาดูสมจริง และผมก็ต้องขอบคุณอย่างยิ่งที่ทางสตูดิโอ ทีมงาน และผู้อำนวยการสร้างให้โอกาสผมได้ฝึกซ้อมจริงๆ

 

ผมไปฝึกที่ Weil Tennis Academy ในเมืองโอไฮ รัฐแคลิฟอร์เนีย จากที่เล่นไม่เป็นเลย มาตอนนี้ผมเล่นเทนนิสตลอดและชอบมาก นับเป็นความโชคดีจริงๆ ครับ ผมฝึกสัปดาห์ละหกวัน บางครั้งวันละสามสี่ชั่วโมงกับโค้ชหลายคน ไม่เพียงแค่เรียนรู้เกม แต่เรียนรู้วิธีการฝึกสอนด้วย พวกเขาให้ผมทำงานกับนักเทนนิสรุ่นเยาว์ระดับประเทศ ให้ผมได้ลองฝึกสอนดู ผมจะใช้เวลาครึ่งหนึ่งศึกษาเกม อีกครึ่งหนึ่งเป็นโค้ชให้ผู้เล่น...เรียนรู้วิธีการให้คำแนะนำ วิธีการช่วยเหลือในการฝึกซ้อม วิธีการให้กำลังใจ ให้ผู้เล่นได้มีส่วนร่วม ให้ผู้เล่นเพ่งสมาธิไปยังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ให้ผู้เล่นมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และตัดสินใจได้อย่างเฉียบคม ผมต้องขอบคุณโค้ชเหล่านั้นและขอบคุณในโอกาสครั้งนี้ครับ

 

คำถาม: ผมเข้าใจว่าคุณได้ติดต่อกับริคด้วย คุณได้รับอะไรบ้างจากเขาครับ โดยเฉพาะในแง่การแสดง

 

จอน เบิร์นธัล: ผมอ่านหนังสือของเขา แล้วก็มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเขาอยู่บนอินเตอร์เน็ต เขาเป็นคนที่เปิดเผยต่อสาธารณะมากครับ ผมว่าตัวตนภายนอกของเขาก็คล้ายกับการเป็นโค้ชของเขา การได้รับฟังเรื่องราวจากผู้คนที่ชื่นชมการมองโลกในแง่ดี ความสนุกสนาน และความรักในเกมกีฬาของเขาก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผมเข้าใจในความเป็นริค แต่การได้เจาะลึกเรื่องราวเบื้องหลังก็น่าสนใจเช่นกัน และ [มือเขียนบท] แซ็ค เบย์ลิน ก็เขียนบทได้งดงาม ละเอียดอ่อน และมีหลายมิติ การที่ผมได้นำเสนอบุคลิกและการมองโลกในแง่บวกนี้ผ่านความขัดแย้งและไม่ลงรอยที่เกิดขึ้นจริงระหว่างริคกับริชาร์ด ถือเป็นเรื่องสนุกมากเลยครับ

 

คำถาม: ช่วยพูดถึงการทำงานกับวิลล์ สมิธ ทั้งในฐานะดาราหนังและในฐานะผู้อำนวยการสร้างหน่อยได้ไหมครับ

 

จอน เบิร์นธัล: วิลล์น่ะเหรอครับ ผมคงบรรยายไม่หมดว่าเขาเป็นคนใจกว้างขนาดไหน ทั้งในฐานะมนุษย์คนหนึ่งและในฐานะศิลปิน ผมทึ่งในงานที่เขาทำ ทึ่งในความทุ่มเท หัวจิตหัวใจ และพลังที่เขามอบให้กับมัน เขาไม่เพียงทำให้ทุกคนรู้สึกอบอุ่น แต่ยังรู้สึกภาคภูมิใจด้วย ผมพูดได้เลยว่าไม่เคยทำงานกับใครที่เหมือนเขามาก่อน เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ผมทึ่งไปกับแนวทางในการทำงาน การวางตัว และการใช้ชีวิตในแบบของเขา ผมภูมิใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเขาครับ

 

คำถาม: คุณเอ่ยถึงเรื่องที่ทั้งคุณและเรนัลโด มาร์คัส กรีนเคยเป็นนักกีฬา การทำงานร่วมกับเขาในฐานะผู้กำกับเป็นอย่างไรครับ

 

จอน เบิร์นธัล: สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดในอาชีพคือเหล่าผู้กำกับที่ผมได้ร่วมงานด้วย ผมว่าในแง่หนึ่ง เรเป็นคนที่แตกต่างออกไป ผมเป็นแฟนขนานแท้ของ “Monsters and Men” เป็นแฟนขนานแท้ของตอนแรกของซีรีส์ “Top Boy” ที่เขากำกับ แต่ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นโอกาสที่จะได้เห็นเขาโชว์ความสามารถแบบเต็มที่ เขาได้ผลักดันพลังสร้างสรรค์มากมายในกองถ่าย สร้างบรรยากาศในเชิงบวก รวมถึงสะท้อนการมองในแง่บวก ความสุข และความอบอุ่นออกมา เขาทำงานในส่วนของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยผลักดันให้การทำงานโดยรวมมีความเป็นอิสระ ลื่นไหล และคล่องตัวจนอะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ผมว่าการทำหนังที่ดีงามจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณได้รับอิสระแบบนี้ในกองถ่ายเท่านั้น

พลังบวกของเขาถ่ายทอดไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างและทุกๆ คน แม้ว่าเราต้องพบกับการล็อคดาวน์ครั้งใหญ่ช่วงที่เกิดโรคระบาด แต่เขาได้สร้างครอบครัวขึ้นมาซึ่งผมก็ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ ผมกับเขากำลังทำมินิซีรีส์ทาง HBO ด้วยกัน ซึ่งเขาจะกำกับทุกตอน ผมชอบคนคนนี้ครับ ผมเชื่อมั่นในตัวเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ ผมซาบซึ้งที่ได้เข้ามาเป็นเหมือนน้องชายและจะทำงานกับเขาตลอดไป ผมคิดว่ารสนิยมของเขาไร้ที่ติ เป็นคนที่น่ารัก ครอบครัวของเราผูกพันกันมากและเขาเป็นคุณพ่อที่ยอดเยี่ยม ถ้าจะให้ชม เร กรีน ผมคงพูดได้ไม่หมดจริงๆ

 

คำถาม: ในฐานะพ่อและนักกีฬา การได้ทำงานร่วมกับผู้หญิงที่น่าทึ่งสองคน ซาไนอา ซิดนีย์ ในบทวีนัส และเดมี ซิงเกิลตันในบทเซเรนาเป็นอย่างไรบ้างครับ

 

จอน เบิร์นธัล: ผลงานของพวกเธอในเรื่องนี้พิเศษมากครับ วิธีการที่พวกเธอวางตัว ความทุ่มเท ความสนุกสนาน และความสามารถทำให้ผมทึ่งตั้งแต่ต้นเลย ผมจำซาไนอาได้จากการประชุมอ่านบทครั้งแรก ผมอึ้งกับความสามารถและความทุ่มเทในการอ่านบทแบบสุดตัว เด็กสาวทั้งสองคนนี้มาจากครอบครัวที่น่ารัก ผมชอบครอบครัวของเธอทั้งคู่ ครอบครัวคอยดูแลให้การสนับสนุน และพวกเธอก็มีวินัยในการทำงานอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ความสามารถที่น่าเหลือเชื่อเท่านั้น แต่พวกเธอยังลงลึกในบทบาทด้วย นอกจากนี้พวกเธอยังสร้างความผูกพันเมื่ออยู่นอกจอ นักแสดงหญิงทุกคนที่รับบทเป็นพี่สาวน้องสาว รวมถึง “ครอบครัววิลเลียมส์” ทั้งครอบครัวในหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน พวกเธอไม่ได้มั่นใจในตัวเองจนเกินกว่าเหตุหรือวางท่าโอ้อวด แต่อยู่ในกรอบของบทบาทตัวละครที่ได้รับและร่วมกันสร้างบางสิ่งขึ้นมา สร้างทีมนักแสดงที่งดงาม จริงแท้ แข็งแกร่ง และเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนในกลุ่มคอยสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง ทุกครั้งที่ผมเดินออกจากที่พักโดยสวมกางเกงขาสั้น ติดหนวด และทำผมทรงกะลาครอบ เด็กๆ ต้องพากันหัวเราะออกมา และผมก็มักจะชอบเดินด้วยท่าทางตลกๆ หรือพูดเสียงสูงแบบริค มัคชี ผมอยากให้เด็กๆ หัวเราะขำผม ต้องแบบนี้ผมถึงจะรู้ว่าเรามาถูกทาง เด็กๆ จะหัวเราะ ไม่ใช่หัวเราะไปกับผม แต่หัวเราะขำผม พอเห็นผมเดินออกจากที่พักทีไรเป็นต้องหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ผมรักพวกเธอครับ รักครอบครัวของเด็กๆ ด้วยและเราจะยังผูกพันกันเสมอ

 

คำถาม: ถ้าดูจากบทบาทต่างๆ ที่คุณเคยได้ คุณแปลกใจไหมครับที่ผู้คนมองกันว่า “ว้าว เขาได้บทแตกต่างจากที่ผ่านๆ มาเลย”

 

จอน เบิร์นธัล: ผมไม่ได้มองในแง่นั้นครับ ผมรู้ว่าในตอนแรกทีมงานยังไม่แน่ใจนักว่าผมเหมาะกับบท ผมต้องลดน้ำหนักเยอะมากและเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตัวเอง แต่ผมรู้ทันทีที่ได้อ่านบทว่าผมเข้าใจเบื้องลึกของคนคนนี้ และผมคิดว่าถ้าคุณเข้าใจจิตใจของตัวละคร ถ้าคุณสัมผัสมันได้ และถ้าคุณเชื่อในภารกิจของตัวละครตัวนั้น สิ่งที่เหลือก็ค่อยๆ สร้างตามมาได้จากจุดนั้น ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งครับที่ได้รับบทนี้

 

คำถาม: คุณดูสนุกกับบทนี้มาก ซึ่งยิ่งทำให้เราได้เข้าถึงตัวละครนี้มากยิ่งขึ้น คุณคิดว่าผู้ชมคาดหวังอะไรได้บ้างจาก King Richard ครับ คุณอยากให้ผู้คนได้รับอะไรกลับไปจากการดูหนังเรื่องนี้

 

จอน เบิร์นธัล: ผมว่ามันเป็นภาพสะท้อนที่แท้จริงของการเป็นผู้ปกครอง การเป็นพ่อ และความรักอันไร้ขีดจำกัดและไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่มอบให้กับลูกๆ เรื่องราวนี้ถ่ายทอดความรักของพ่อแม่ออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์และงดงาม ผมว่ามันเป็นเรื่องราวที่สรรเสริญการเป็นพ่อแม่ รวมถึงสรรเสริญเด็กหนุ่มเด็กสาวที่กำลังเติบโตเป็นตัวของตัวเองและพลังของการเติบโตนั้น พลังและความเจ็บปวดซึ่งบางครั้งอาจเกิดขึ้นเมื่อคุณต้องปล่อยให้ลูกๆ บินจากไปตามวิถีของตน ในฐานะพ่อคน ผมรู้ว่าความรักที่คุณมีให้ลูกนั้นลึกซึ้งมากเพียงใด คุณต้องคอยอยู่ใกล้ๆ คอยประคับประคอง และโอบกอดพวกเขาไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยสนับสนุน ผลักดัน และปล่อยให้พวกเขาบินจากไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ใช่เรื่องสบายๆ แต่ก็มีความงดงามอยู่ในนั้น ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ครับ

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X