|
ลิซ่า (Lisa) วง BLACKPINK ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีที่แล้วสำหรับผลงานอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกของเธอ “LALISA” ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งในสหรัฐฯ และประเทศอื่นทั่วโลก เพลง LALISA อยู่ในอันดับ 84 ของ Billboard Hot 100 ในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว และขึ้นท็อป iTunes Top Song Chart ใน 72 ประเทศ รวมถึง Global YouTube Song Top 100 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของศิลปินหญิงเดี่ยวของวงการเคป็อป
นอกจากเพลงไตเติ้ลอย่าง LALISA แล้ว เพลง MONEY ยังติดอันดับ 35 ใน Billboard Pop Airplay Chart ของวันที่ 3 มกราคม โดยเป็นชาร์ตที่จัดอันดับเพลงที่ถูกเล่นในสถานีวิทยุหลักของสหรัฐฯมากที่สุดประจำสัปดาห์ จากความสำเร็จของลิซ่า นิตยสาร Forbes ถึงกับบอกว่าเป็นเรื่องยากที่ศิลปินที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักจะทำผลงานได้ดีขนาดนี้
อัลบั้มโซโล่ของ ลิซ่า มียอดขายมากกว่า 730,000 ในปีที่แล้ว ถือเป็นศิลปินเดี่ยวหญิงคนแรกและคนเดียวที่มียอดขายมากกว่า 500,000 ก็อปปี้
ลิซ่าถือเป็นหนึ่งในศิลปินต่างชาติไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จในวงการเคป็อป
สำหรับลักษณะของเคป็อปยุคนี้ถูกเรียกว่า ยุค KPOP 2.0 ที่เริ่มต้นตั้งแต่ยุคต้นปี 2000 ในวงเคป็อปจะมีสมาชิกต่างชาติรวมอยู่ด้วย แตกต่างจากยุค KPOP 1.0 ที่ยังมีสมาชิกชาวเกาหลีแต่มาจากต่างประเทศ อาทิ ยูจีน วง SES, ทิฟฟานี่ วง Girls’ Generation
ยุค KPOP 2.0 นี้ทำให้เราได้เห็นไอดอลเคป็อปสัญชาติ จีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และไทยมากขึ้นในวงการเคป็อป
ในบรรดาไอดอลหลายสัญชาติ ไอดอลเคป็อปสัญชาติไทยเป็นอีกกลุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น
เริ่มจาก นิชคุณ (Nichkhun) วง 2PM ที่เดบิวต์ในฐานะไอดอลเคป็อปสัญชาติไทยคนแรก นิชคุณเดบิวต์เมื่อปี 2008 และได้รับความสนจใจเป็นอย่างมากจากทักษะการเต้นและวิชวลของเขา แม้ว่าตอนนั้นเขายังพูดเกาหลีได้ไม่คล่องนัก แต่เขากลับได้รับโอกาสให้เข้าร่วมรายการวาไรตี้และโฆษณาเกาหลีหลายรายการ
หลังจากนั้น เราก็ได้เห็นไอดอลชาวไทยในวงเคป็อปมากขึ้นเรื่อยๆ ไล่เรียงกันมาทั้ง แบมแบม (BamBam) วง GOT7, เตนล์ (TEN) วง NCT, ลิซ่า (Lisa) วง BLACKPINK, มินนี่ (Minnie) วง (G)I-DLE และอีกหลายคน
คนทำงานในวงการเคป็อปแสดงความคิดเห็นว่า “เมื่อเปรียบเทียบกับญี่ปุ่น และจีน วัฒนธรรมไทยแตกต่างจากเกาหลี และจำนวนไอดอลไทยที่ได้เดบิวต์นั้นมีน้อย แต่กลับได้รับความนิยมในระดับดี” นั่นหมายถึงไอดอลไทยมีโอกาสประสบความสำเร็จในระดับสูง
คิมจินอู นักวิเคราะห์ระดับสูงของ Gaon Chart บอกว่า “อย่างแรกเลยคือ เคป็อปได้รับความนิยมในประเทศไทยมานานแล้ว และตลาดค่อนข้างกว้าง ทำให้แฟนด้อมมีขนาดใหญ่ การเติบโตในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่อนข้างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และประเทศไทยเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเติบโตนี้”
เขาบอกต่อ “ต้นสังกัดเคป็อปเองก็อยากรับรองความมั่นใจด้วยการเดบิวต์วงที่มีสมาชิกชาวไทย” คิมจินอูกล่าว “นิชคุณกลายเป็นคนดังในเกาหลี และได้รับการดูแลเป็นพิเศษที่ไทย ในขณะที่วงการเคป็อปเติบโตขึ้น จำนวนคนที่อยากเป็นไอดอลในประเทศไทยก็สูงขึ้น และวัฒนธรรมเกาหลีก็ได้รับความนิยมในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ทำให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ภาษาและปรับตัวได้ค่อนข้างรวดเร็ว”
ประเทศไทยมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 20 ของโลก โดยมีประชากรทั้งสิ้น 70,078,198 คน (ข้อมูลปี 2021) ทำให้ตลาดภายในประเทศแข็งแรงมาก ถือเป็นประเทศที่มีประชากรสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย (279,134,505 คน) และ เวียดนาม (98,953,535 คน)
อย่างไรก็ตามจุดแข็งของประเทศไทยคือมีความยืดหยุ่นด้านวัฒนธรรมมากกว่าอินโดนีเซีย ที่ยังมีการจำกัดสิทธิของผู้หญิงอยู่มาก หรือประเทศเวียดนามที่ยังปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม
นักวิจารณ์วัฒนธรรมป็อป คิมจองฮยอน แสดงความคิดเห็นว่า “ด้วยความเป็นประเทศท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีบรรยากาศที่เป็นมิตร รวมถึงตลาดเพลงและวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมซึ่งสามารถกระจายไปยังประเทศเพื่อบ้านได้ สำหรับ[ประเทศไทย] ถือว่าเป็นฐานของเคป็อปรองมาจากญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้”
อย่างเช่นปีที่แล้ว มีการค้นหาคำว่า “lalisa” ใน Google ซึ่งในประเทศพม่า คำนี้มีการค้นหาอยู่ในอันดับ 1 และประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีการค้นหาในอันดับสูง นอกจากนี้ยังมีการค้นหาในสหรัฐฯและฝั่งยุโรปเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับลิซ่า วง BLACKPINK มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และมีการเปิดสอนเคป็อปเมื่อช่วงพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมา สถาบันนั้นดูแลโดยศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเกาหลีระหว่างประเทศ และ YG Entertainment ต้นสังกัดของ BLACKPINK
ที่มา joongang