“เอส” เผยไม่ต่อสัญญาช่อง 3 เพราะเกรงใจตนต้องทุ่มเทให้กับงานที่ “เอไทม์ฯ” ลั่นตอนนี้ขอมุ่งทำงานเบื้องหลังก่อน รับยังคุยสาว “หยาด” บ้าง เลี่ยงไม่ตอบคบกันอยู่หรือเปล่า ให้เป็นเรื่องอนาคต

นานๆ จะเห็นกลับมาเล่นละครที เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการบริหารเอไทม์ทราเวลเลอร์ ล่าสุดหนุ่ม “เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย” ก็กลับมารับบทบาทการแสดงอีกครั้งในละครเครื่อง “เล่ห์ร้อยรัก” ทางช่อง 3 หลังหายไปจากงานแสดงถึง 2 ปี

“ฟีดแบ็คละครกับเล่ห์ร้อยรักก็ดีครับ เพราะผมเองก็หางไป 2 ปีเลยกับละคร กลับมาก็โอเค เรื่องต่อไปคงเว้นไว้สักระยะนึงก่อนรับ เราเองก็ไประบุไม่ได้ว่าจะเล่นปีละเรื่องรึเปล่าหรือว่ายังไง คงต้องดูงานหลักของเราก่อน ดูความเหมาะสมมากกว่าครับ คงต้องดูเรื่องของบทละคร ต้องคัดเลือกนิดนึง สำหรับนักแสดงสิ่งที่ดีที่สุดน่าจะมาจากบทก่อน”

“ยิ่งตอนนี้ยุ่งกับงานคลับฟายเดย์เดอะซีรี่ส์ด้วย อาจจะเป็นอีกส่วนนึงที่เราต้องการจะผันตัวเองจากเบื้องหน้ามาสู่เบื้องหลัง เรื่องของเวลามันก็มีส่วน ก็สนุกดีครับ งานเอไทม์ทราเวลเลอร์เราก็ยังทำอยู่เหมือนเดิม อย่างตัวรายการเราก็ยังทำอยู่ เพียงแต่พอไปทีก็ต้องเก็บมาให้ได้หลายๆ เทป ตอนนี้ก็อาจจะมีสลับมาถ่ายในประเทศบ้าง เพราะจริงๆ เราเองก็อยากจะส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศด้วย ก็ยุ่งครับ”

เผยไมได้ต่อสัญญากับทางช่อง 3 แล้ว ลั่นยังไม่คิดทิ้งงานเบื้องหน้าไปไหนแต่ตอนนี้ขอทุ่มเทให้กับงานเบื้องหลังก่อน ล่าสุดก็คือการนั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ Club Friday The Series ที่มี “เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” เป็นเจ้าของโปรเจกต์

“สัญญากับช่อง3 หมด 31 สิงหาฯนี้ครับ เราเองก็มีการพูดคุยกับทางช่องก่อนหน้านี้แล้ว ก็คงขอยุติสัญญาไว้แค่ฉบับล่าสุดที่ต่อไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ผมว่ามันเป็นความยุติธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย ด้วยลักษณะสัญญาเราจะต้องทำงานให้กับช่อง ซึ่งในขณะเดียวกันผมเองก็มีภารกิจของเรา ซึ่งเราไม่มีเวลา ก็เลยมองว่าการยุติสัญญาน่าจะเป็นอะไรที่ดีสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ส่วนตัวก็ยังสามารถรับงานการแสดงกับทางช่อง 3 ได้อยู่ และยังยินดีมากๆ ที่จะทำ ก็คงเป็นเรื่องของโอกาสและความเหมาะสม”

“ก็คงไม่ทิ้งหรอกครับ เพราะเราเริ่มต้นทำงานมาจากตรงนี้ โปรเจ็กต์ต่อๆ ไปกับงานเบื้องหลังคงมีแน่นอน เพราะเราผันมาทำงานเบื้องหลังเต็มตัวแล้ว ตอนนี้ก็ทำคลับฟายเดย์เดอะซีรี่ส์ให้ดีที่สุดก่อน ก็ถือเป็นงานแรกของผมสำหรับงานเบื้องหลัง หลังจากนี้ก็คงจะมีอีกเรื่อยๆ ให้ติดตาม”

“แต่ถ้าเวลาลงตัวก็จะกลับมารับงานเบื้องหน้าอีก เราเองยังรู้สึกสนุกและยังคิดถึงบรรยากาศตรงนั้นอยู่ มันเหมือนได้กลับมาอยู่ในชีวิตในแบบของเรา เพราะที่ผ่านมาเราก็มาทำงานออฟฟิศ อยู่กับเรื่องของธุรกิจ พอเรากลับไปทำงานแสดง เราก็มีความสุขมาก เป็นตัวของตัวเอง มีความสุขดีครับ”

“อนาคตผู้จัดฯลักษณะของการทำงานเบื้องหลัง ส่วนตัวเป็นคนทำงานสเต็ปบายสเต็ป เรารู้สึกว่าแค่การที่เราอยู่เบื้องหน้าแล้ววันนี้เราผันตัวเองมาทำงานเบื้องหลัง เราถือว่าเราออกสตาร์ทได้ดีกว่าคนอื่นในระดับนึง ว่าเราคุ้นชิน เราคลุกคลีอยู่กับการทำงานเบื้องหลังอยู่แล้ว พอเห็นงานเราก็คุ้นเคยกับมัน”

“แต่งานบางอย่างที่เราไม่เคยทำ แล้วเราได้มาสัมผัสจริงๆ ก็เพิ่งได้เคยสัมผัส เป็นอะไรที่สนุกมาก เราทำงานกันเต็มที่อยู่แล้ว ก็เลยสนุกไปกับมัน ผมก็มองว่าพอมีโอกาสเข้ามาผมก็ลองหมดแหละ ทำได้ก็ได้ ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวหาคนมาช่วยทำ”

รับยังคุยสาว “หยาด หยาดทิพย์ ราชปาล” บ้าง ลั่นตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องของการทำงานเป็นหลัก

“เรื่อยๆ ครับ ไม่มีอะไร ยุ่งแต่กับงาน คงไม่มีเวลาให้กับใคร กับหยาดก็คุยกันเป็นเรื่องปกติครับ บ่อยแค่ไหนบอกไม่ได้ ก็เท่าที่มีเวลาครับ เราโตๆ กันแล้ว ส่วนใหญ่ผมก็ทำงาน ต่างคนต่างทำงานก็ไม่ค่อยมีเวลากัน (คนเลยโฟกัสไปว่าคนที่หยาดคุยอยู่ด้วยตอนนี้จริงๆ ก็คือเอสนั่นแหละ?) ก็แล้วแต่คนจะตีความกันไปต่างๆ นานา จริงๆ แล้วก็อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมาก ทำงานดีกว่าครับ ผมว่าวันนี้เราคุยแต่เรื่องงานดีกว่าครับ(หัวเราะ) อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคตเรายังตอบไม่ได้”

http://www.manager.co.th