ฝาแฝดนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเกาหลีถูกปลดออกจากทีมหลังจากมีข่าวเคยรังแกผู้อื่นในอดีต ทั้งคู่ถือเป็นผู้เล่นสำคัญของทีมในการนำทัพวอลเลย์บอลเกาหลีในศึกโอลิมปิกโตเกียว

อีแจยอง (Lee Jae-yeong) วัย 25 ปี และฝาแฝด อีดายอง (Lee Da-yeong) เป็นผู้เล่นของสโมสรวอลเลย์บอลฮึงกุก (Heungkuk Life Insurance Pink Spiders) ของเกาหลีใต้ พวกเธอยอมรับว่าเคยรังแกเพื่อร่วมทีมเมื่อ 10 ปีก่อนขณะที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และได้ออกมาขอโทษผู้เสียหาย ทางด้านสโมสรได้ทำการพักกิจกรรมของทั้งคู่อย่างไม่มีกำหนด

ผู้เสียหายอย่างน้อย 4 คนจากทีมวอลเลย์บอลระดับม.ต้น ได้ออกมาเปิดเผยว่าฝาแฝดได้รังแกทั้งทางวาจาและร่างกายต่อพวกเธอ โดยใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้เล่นระดับท็อปของทีม

“เรารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ควรมีต่อแฟนวอลเลย์บอลทุกคน” สโมสร Pink Spiders ซึ่งอยู่ในอันดับ 1 ของลีก V ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ “การรังแกกันในหมู่นักเรียนกีฬาจะต้องไม่เกิดขึ้น และไม่สามารถยอมรับได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ เราตัดสินใจแบนนักกีฬาทั้ง 2 คนอย่างไม่มีกำหนด”

การถอดฝาแฝดออกจากทีมชาติ เป็นไปตามกฎของ Korea Volleyball Association (KVA) ที่กล่าวไว้ว่า หากนักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจต่อสังคม จะไม่สามารถเป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งขันในระดับประเทศได้

ฝาแฝดอี ช่วยให้ทีมเกาหลีใต้คว้าตั๋วเข้าแข่งขันในโอลิมปิดโตเกียวได้สำเร็จ หลังจากพาทีมชนะเอเชียทัวร์นาเมนต์เมื่อเดือนมกราคม

ทั้ง 2 คนมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเกาหลีใต้ โดยได้เข้าร่วมรายการโทรทัศน์หลายรายการ รวมถึงเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ Kia Motors ซึ่งรายการโทรทัศน์รวมถึงโฆษณาได้ออกมาประกาศปลดพวกเธอออกจากสื่อช่องทางต่างๆเช่นกัน

Kia Motors ยกเลิกตารางการออกอากาศโฆษณาของทั้ง 2 ฝาแฝดอี

หนึ่งในสี่ของคนที่ถูกรังแกโดยฝาแฝดเปิดเผยว่าพวกเธอเคยรังแกคนในวอลเลย์บอลของโรงเรียน Geunyeong Middle School ด้วยวิธีใดบ้าง เธอยกตัวอย่างมาถึง 21 ข้อ

“จำไม่ได้เหรอว่าเคยตีปากของฉัน ปาแว่นของฉันทิ้ง?” เหยื่อของฝาแฝดได้เขียนถึงสิ่งที่ฝาแฝดได้ทำกับเธอ นอกจากนี้ฝาแฝดยังเคยใช้มีดขู่เพื่อนร่วมทีมที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของพวกเธอในเวลากลางคืน

ฝาแฝดมักจะทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมทีม ข่มขู่เอาเงินเพื่อไปซื้อขนม และบอกให้เพื่อนร่วมทีมไปไกลๆเพราะไม่อยากได้กลิ่นและสกปรก

“ถึงแม้จะผ่านมาหลายปี แต่ฉันก็ยังคงเจ็บปวดจากเรื่องเลวร้ายดังกล่าว แต่คนที่รังแกฉัน กลับยิ้มได้ และได้ออกทีวี”

โพสของผู้เสียหายได้รับความสนใจเป็นอย่างมากบนโซเชียลมีเดีย และแฟนวอลเลย์หลายคนแสดงความโกรธ ทางด้านฝาแฝดได้ออกมาโพสขอโทษผ่านทางอินสตาแกรม “ฉันได้ทำร้ายคนหลายคนด้วยนิสัยที่หยาบคายตอนที่ฉันยังเด็ก” แจยองกล่าว “ฉันขอโทษจากใจจริง ต่อคนที่ฉันทำให้เจ็บปวดด้วยนิสัยที่ไม่ดีของฉันในโรงเรียน”

ดายอง ได้ออกมาขอโทษเพื่อนร่วมโรงเรียนของเธอจาก ‘พฤติกรรมที่ไม่ดีของเธอ’ เช่นกัน

“หากผู้เสียหายยอมให้ฉันได้เจอพวกเขา ฉันอยากไปเจอพวกเขาและขอโทษด้วยตัวเอง” เธอบอก

หลายคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์ของสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลี เรียกร้องให้มีการแบนผู้เล่นทั้ง 2 คนจากทีมชาติอย่างถาวร 

“เรื่องที่ถูกเปิดเผยแสดงให้เห็นว่าฝาแฝดอีทำเกินกว่าเหตุ” ข้อความหนึ่งบนเว็บไซต์ของสมาคมฯกล่าวเอาไว้ “พวกเธอควรถูกปลดถาวร ถ้าไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่ดูวอลเลย์บอลอีก”

ชุงยงชอล อาจารย์ด้านจิตวิทยาการกีฬาจากมหาวิทยาลัย Sogang University ได้ออกมาพูดถึงกรณีของฝาแฝดอีว่าเป็นอีกตัวอย่างความรุนแรงในวงการกีฬาเกาหลี โค้ชหรือผู้ฝึกสอนมักจะมองข้ามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักกีฬา ตราบใดที่พวกเขาสามารถคว้าเหรียญจากการแข่งขันในโอลิมปิก หรือรายการระดับนานาชาติได้

“หากประเทศนี้ยังคงดำเนินไปตามระบบที่สนับสนุนนักกีฬาหัวกะทิจนไม่สนเรื่องอื่น ปัญหาความรุนแรงภายในวงการกีฬาก็ยังจะดำเนินต่อไปในเกาหลีใต้” อาจารย์ชุงยงชอลให้สัมภาษณ์ไว้กับ This Week in Asia

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยหลังจากอาชีพนักกีฬาวอลเลย์บอลอาชีพได้รับความนิยมมากขึ้นในเกาหลีใต้ เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้ติดตามการแข่งขันในลีกระดับ V แซงหน้าการแข่งขันเบสบอล

ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้เล่นวอลเลย์บอลชาย ซงมยองกึน และ ชิมคยองซอบ ของสโมสร OK Financial Group Okman ถูกแฉว่าเคยรังแกเพื่อนร่วมทีมสมัยมัธยมเช่นกัน พวกเขาต่อยเพื่อนร่วมทีม เรื่องนี้ทำให้พวกเขาถูกพักการแข่งขันตลอดซีซั่น

นอกจากวงการวอลเลย์บอลแล้ว กีฬาอื่นก็เคยมีปัญหาการรังแกกันในทีมเช่นกัน

ทีมเบสบอล Kiwoom Heroes ห้ามไม่ให้พิชเชอร์ลงแข่ง 50 เกม ในปี 2018 หลังจากมีข่าวว่าเขาเคยรังแกเพื่อนสมัยเรียน

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ชเวซอกฮยอน นักกีฬาไตรกีฬาได้ฆ่าตัวตายหลังจากเรียกร้องว่าถูกล่วงละเมิดจาก คิมกยูบง โค้ชของเธอ, จางยุนจอง กัปตันทีม และหมอนวดของทีม
 

คิมกยูบงได้รับโทษจำคุก  7 ปี ส่วนจางยุนจอง ได้รับโทษจำคุก 4 ปี ในขณะที่หมอนวดชายถูกจำคุก 8 ปี

เมื่อเดือนที่แล้ว ชูแจบอล วัย 39 ปี อดีตโค้ชของชิมซอกฮี เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกสปีดสเก็ตติ้ง วัย 23 ปี ได้ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี 6 เดือน จากข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายร่างกายเธอเป็นเวลามากกว่า 3 ปี