เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

จากกรณีปัญหาขัดแย้งเรื่องค่าตัวระหว่างดาราสาวซูเปอร์สตาร์ พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ กับออแกไนเซอร์แห่งหนึ่ง ที่อ้างถึงปัญหาการหักภาษี ที่ตัวแทนออแกไนเซอร์ ออกมาแฉว่า เอกสารรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งเป็นสำเนาบัตรประชาชนไม่ใช่ของพลอย เนื่องจากดาราสาวต้องการเลี่ยงภาษี จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโลกออนไลน์ และทางกรมสรรพากรได้มีคำสั่งด่วนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ลานแฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลอย เฌอมาลย์ พร้อมด้วย นางธัญดา นิลภิรมย์ มารดา, นายก้อง หิรัญรงค์ ที่ปรึกษากฎหมาย และนางภิญญดา เบญจมหากิจ ผู้จัดการส่วนตัว ได้ ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยพลอย กล่าวว่า เรื่องราวเกิดจากเฟซบุ๊ก ที่ทางนั้นกล่าวหาผู้จัดการว่าโกงเงิน จึงจำเป็นต้องออกมาปกป้อง แต่ตอนนี้ประเด็นเบี่ยงเบนไปแล้ว

พลอย กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ตนขอโทษที่ใช้คำพูดรุนแรง ไม่มีสติควบคุมอารมณ์ ด้วยสถานการณ์ตอนนั้น ทำให้พูดโดยไม่ยั้งคิด สำหรับบริษัทแอบโซลูท ออแกไนเซอร์ คู่กรณี ต้องขอชะลอการทำงานไปก่อน เพราะไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต จนตกเป็นจำเลยของสังคม แต่สิ่งหนึ่งคือ อยากจะขอโทษที่พูดรุนแรง แม้จะเป็นนักแสดงแต่มีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป เมื่อโดนกระทำมาก็จำเป็นต้องโต้ตอบ แต่หลังจากนี้คงต้องควบคุมสติให้มากขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรกับการแสดงความคิดเห็นที่ค่อนข้างรุนแรงตามชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ ทันใดนั้น พลอย ก็ร่ำไห้ออกมาพร้อมกล่าวว่า ค่อนข้างเครียด เสียใจที่ถูกกล่าวหาต่าง ๆ นานา ช่วงปีที่ผ่านมา เจอเรื่องร้ายมามาก เหนื่อย และไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว ตอนนี้ตนได้รับบทเรียนแล้ว รู้เลยว่าแม้ว่าจะเป็นนักแสดงมืออาชีพแต่ยังถือว่าสอบไม่ผ่านในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ หลังจากนี้ขอยืนยัน และสัญญาว่า จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะอยากให้เรื่องทุกอย่างจบ และขอทำงานต่อไป

ส่วนปัญหาเรื่องการนำสำเนาบัตรประชาชนของบุคคลอื่นไปออกใบกำกับภาษีนั้น นายก้อง ที่ปรึกษาทางกฎหมาย กล่าวชี้แจงว่า พลอยมีหน้าที่ทำงานอย่างเดียว ส่วนเรื่องบัญชี และกฎหมาย มีสำนักงานที่คอยดูแลเรื่องนี้อยู่ ก่อนหน้านี้ทางบริษัทแอบโซลูท ทำเรื่องขอเอกสารเพื่อไปทำเช็คเงิน และหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งปรากฏว่า สำนักงานบัญชีได้ส่งบัตรประชาชนผิดใบ ซึ่งกลายเป็นบัตรประชาชนของนายทวีศักดิ์ บุนนาค เมื่อพลอยได้รับเช็ค และพบว่าชื่อที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ไม่ใช่ชื่อของตน จึงสอบถามไปทางสำนักบัญชีจนทราบเรื่อง จากนั้นทางเราจึงได้ติดต่อไปทางบริษัทแอบโซลูท เพื่อขอให้แก้ไขหนังสือรับรองหักภาษีใหม่ ซึ่งตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว

นายก้อง ยังกล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นเรื่องกรมสรรพากร ตอนนี้ได้เข้าไปชี้แจงในเบื้องต้นว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยืนยันว่าพลอยไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และให้ความร่วมมือกับกรมสรรพากรทุกอย่าง ในส่วนของบริษัทสำนักบัญชี ทางเราเตือนไปแล้วว่าให้ระมัดระวังในการทำงานมากกว่านี้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อตัวคุณพลอย และครอบครัว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวคนจะมองว่าการชี้แจงในครั้งนี้เป็นเพียงข้ออ้างที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขสถานการณ์หรือไม่ นายก้อง ตอบว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เนื่องจากหัวหน้าบัญชีของบริษัทนั้น ๆ ไม่ได้ติดต่อด้วยตัวเอง ความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งส่งผลมาถึงคนที่ไปว่าจ้าง ดังเช่นกรณีของพลอย เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ด้านนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ทั้งดารา และผู้ที่จ่ายเงินให้ดารา รวมถึงผู้รับเงินแทนมีความผิดทางกฎหมาย ตอนนี้สั่งการให้สรรพากรในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบภาษีย้อนหลังแล้ว หากเป็นผู้ที่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อนจะถูกปรับย้อนหลัง 10 ปี แต่ถ้ายื่นภาษีมาแล้ว ต้องเสียย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งกรมสรรพากรสามารถปรับได้ทันที ทั้งนี้ หากมีความผิดเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้รับเงิน หรือผู้จ่ายเงิน ก็ต้องมีการเสียค่าปรับ รวมถึงดอกเบี้ยที่จะต้องเรียกเก็บจากผู้กระทำผิดด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก