ส.ที่ 1 คือ สบู่ ให้ใช้สบู่อ่อนล้างหน้าและชำระล้างผิวกาย เวลาล้างหน้า ล้างเบา ๆ อย่างทะนุถนอมแล้วใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับน้ำให้แห้ง บางคนใช้ผ้าขนหนูขัดถูหน้าแรง ๆ จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิว หรือถ้ามีสิวอยู่แล้วก็จะแตกเป็นแผลเป็นได้ ไม่ควรใช้แปรง ฟองน้ำ สบู่ยาหรือสบู่ที่ผสมเม็ดขัดถูใบหน้า เพราะหน้าจะระคายเคือง ผิวหนังลอก เป็นผื่นและขุยแดงตามร่องแก้มและหัวคิ้ว 

ส.ที่ 2 คือ สิว ห้ามบีบแกะสิวออกเพราะจะเกิดแผลเป็น การกดสิวนั้นแพทย์อาจเลือกกดให้เฉพาะสิวอุดตันหัวดำเท่านั้น ส่วนในรายที่เป็นสิวอักเสบมาก ๆ คือสิวหัวช้าง การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าหัวสิวอาจทำให้ยุบลงอย่างรวดเร็ว แต่จะทำเฉพาะรายที่จำเป็นจริง ๆ 
ส่วนแผ่นขจัดสิวเสี้ยนที่นิยมใช้แปะจมูกนั้น ไม่ควรใช้เกินสัปดาห์ละครั้ง เพราะถ้าใช้บ่อยผิวหน้าจะอักเสบ และกระตุ้นให้สิวเกิดมากขึ้น การกินยารักษาสิว ควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ เพราะอาจเป็นอันตรายกับทารกในครรภ์ได้ 

ส.ที่ 3 คือ เครื่องสำอาง ควรเลือกใช้ที่ไม่มีสารสเตรียรอยด์เจือปน เลือกใช้ครีมที่ไม่มีส่วนประกอบของสารกระตุ้นให้เกิดสิว ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่เหนียวเหนอะหนะเกินไป เครื่องสำอางที่แพงอาจไม่ใช่เครื่องสำอางที่ดีที่สุด ในทำนองตรงกันข้าม เครื่องสำอางที่มีราคาถูกก็อาจไม่ได้มาตรฐานและมีสารปลอมปนมาก 

ส. ที่ 4 ขจัดสาเหตุต้นตอ หากเราไม่อยากมีใบหน้าเหี่ยวย่นยับยู่ยี่ต้องทำความเข้าใจสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยย่นบนใบหน้า ได้แก่ อารมณ์ แสงแดด บุหรี่ เห็นได้ชัดว่าผู้ที่พกพาแต่ความเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวด หรือกรณีของผู้ที่สูบบุหรี่นั้น สารนิโคตินทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังหดตัว ผิวหนังขาดอาหารจึงเกิดการเสื่อมสลายพบรอยเหี่ยวแบบแนวตั้งรอบริวฝีปากและรอยตีนกา การป้องกันก็ได้แก่ ทำอารมณ์แจ่มใส หลบเลี่ยงแสงแดดัดเพื่อลดริ้วรอย ใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นทาเพื่อแก้ไขรอยเหี่ยวแห้ง และงดสูบบุหรี่ แค่นี้เอง 

ส. ที่ 5 คือ แสงแดด ยกเอามากล่าวอีกซ้ำอีกครั้งในเรื่องฝ้า และกระ เพราะเป็นปัญหากระทบความงามที่สาวไทยวิตกกังวลมาก ยังไม่มีวิธีใดที่จะรักษาฝ้าและกระให้หายขาดไม่เกิดขึ้นใหม่ได้อีก จึงไม่ควรเสียเวลาและเงินทองให้กับการรักษากระ ฝ้าเกินไปนัก วิถีทางที่ดีที่สุดในการป้องกันคือเลี่ยงแสงแดดในช่วง 8.00-17.00 น. 

ส. ที่ 6 คือ สุขภาพกาย สุขภาพกายที่แข็งแรงย่อมทำให้ผิวพรรณสดใส การทำงานหนักโดยไม่พักผ่อนเลย หรือเอาแต่เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ โดยไม่ทำงานให้เป็นแก่นสาร ล้วนมีผลเสียต่อสุขาภาพ การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายอ่อนแอ ก่อผลเสียต่อผิวได้ นอกจากผลเสียของการสูบบุหรี่แล้ว การดื่มเบียร์ เหล้า ดื่มไวน์ ตลอดจนยาเสพติดทุกรูปแบบล้วนก่อปัญหาทั้งนั้น จึงควรเลี่ยงเสีย และนอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง รับประทานอาหารให้ครบหมู่และดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอและรับการตรวจสุขภาพร่างกายด้วย ไม่มีอาหารเสริมหรือวิตามินมหัศจรรย์ที่ทำให้สุขภาพกายดี และผิวสวยหากไม่ปฏิบัติตามกติกาอนามัยพื้นฐานเหล่านี้ 

ส. ที่ 7 คือ สุขภาพจิต อารมณ์กับสุขภาพผิวเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กัน ความเครียดนอกจากทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ ปวดหัว ฯลฯ แล้ว ยังมีผลต่อผิวพรรณคือทำให้ผิวหนังอักเสบ เป็นลมพิษ ผมร่วง เริมกำเริมหรือสิวเห่อได้ วิธีหลีกหนีความเครียดมีหลากหลาย เช่น ออกกำลังกาย นั่งวิปัสสนา โยคะ การนวด มีอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี

ปฏิบัติตามสูตร 7 ส นี้ รับรองมีผิวสวยอย่างธรรมชาติ แถมไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทองไปกับการใช้เครื่องสำอาง หรือถูกโฆษณาชวนเชื่อให้รักษาด้วยวิธีต่าง ๆ สวยอย่างธรรมชาตินี่ล่ะครับ ปลอดภัยที่สุด

ที่มา  http://siamdara.com/