|
สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียเพิกเฉยความจริงที่ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน หนุนให้สถานการณ์ระหว่างประเทศตึงเครียดอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2556 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียเพิกเฉยต่อความเป็นจริงเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีฆ่าประชาชน ยิ่งผลักดันให้เกิดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ มากขึ้นไปอีก ในระหว่างที่ทั้งสองชาติกำลังหารือเกี่ยวกับการกำจัดอาวุธเคมีในซีเรีย
รายงานระบุว่า แม้ว่าเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียและสหรัฐฯ จะมีการหารือเกี่ยวกับข้อตกลงในการยึดอาวุธเคมีในซีเรีย และมีแผนจะกำจัดอาวุธเคมีในซีเรียให้หมดในช่วงกลางปี 2014 แต่ทางสหรัฐฯ และรัสเซีย ก็ยังคงมีความเห็นต่างกันต่อกรณีสังหารหมู่ด้วยอาวุธเคมีในซีเรีย ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยทางรัสเซียยังคงหนุนหลังซีเรีย ด้วยการยืนยันว่า การสังหารหมู่ในซีเรียชานกรุงดามัสกัส ที่นำมาซึ่งการสังเวยชีวิตของประชาชนนับร้อยคนนั้น เป็นฝีมือของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่สังหารประชาชนด้วยกันเอง เพื่อกระตุ้นให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงและใช้ปฏิบัติการโจมตีทางการทหารต่อซีเรีย โดยนายเซอร์เกย์ ลาฟโรฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ได้เปิดเผยว่า แม้มีผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่ามีการใช้อาวุธเคมีจริงในซีเรีย แต่รัฐบาลซีเรียไม่ได้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการดังกล่าว รัสเซียยังคงเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการยั่วยุของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย
ขณะที่ทางด้านสหรัฐฯ รวมถึงฝรั่งเศส ก็ยังคงยืนยันและเห็นพ้องต้องกันว่า รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจริง และเชื่อว่าผลการสืบสวนจากทางองค์การสหประชาชาติ จะปรากฏออกมาในทางเดียวกันกับที่สหรัฐฯ ยืนยันมาโดยตลอด
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม