ราชกิจจาคลอดคำสั่งมาตรา 44 เพิ่มอำนาจทหารลุยปราบหวยแพง
2015-05-02 13:08:57
Advertisement
คลิก!!!

 

วันที่ 1 พ.ค. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 จึงมีคำสั่ง ดังนี้

 

 ข้อ 1 ในคำสั่งนี้ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม


 ข้อ 2 ให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับพ้นจากตำแหน่ง และมิให้แต่งตั้งคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จนกว่าหัวหน้าคสช.จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หรือคสช.จะสิ้นสุดลงตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ


 ข้อ 3 ให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกอบด้วย ผู้ที่หัวหน้าคสช.แต่งตั้ง เป็นประธาน มีผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสานักงบประมาณ ผู้แทนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ และผู้ที่คสช.แต่งตั้งเป็นกรรมการไม่เกิน 3 คน ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นกรรมการและเลขานุการ
 

 ข้อ 4 ในกรณีที่เห็นสมควร หัวหน้าคสช.อาจมีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะกรรมการตามข้อ 3 ได้ตามความเหมาะสม
 

 ข้อ 5 ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นในสำนักงาน เรียกว่า “กองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม” เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ ดังนี้ ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการพนัน สาเหตุและผลกระทบจากการพนัน รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนัน สร้างความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพนัน เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการพนัน และแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล
 

 ข้อ 6 กองทุน ประกอบด้วยเงินที่ได้รับจัดสรรจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ดอกผลจากเงินกองทุน

 

 ข้อ 7 เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นว่าเงินกองทุนมีจำนวนสูงเกินความจำเป็น รัฐมนตรีโดยลำพัง หรือโดยคำแนะนาของคณะกรรมการ อาจสั่งให้ลดจำนวนเงินกองทุนลงให้คงเหลือไว้เท่าที่รัฐมนตรีเห็นสมควร ในกรณีนี้ให้สำนักงานนำส่งเงินที่สูงไปกว่าจำนวนที่รัฐมนตรีกำหนดเป็นรายได้แผ่นดิน
 

 ข้อ 8 ให้คณะกรรมการมีหน้าที่ดูแลการบริหารจัดการกองทุนตามวัตถุประสงค์ และพิจารณาอนุมัติการใช้เงินกองทุน
 

 ข้อ 9 ให้ผอ.มีหน้าที่ดำเนินกิจการของกองทุนตามวัตถุประสงค์ของกองทุนและตามที่คณะกรรมการกำหนด
 

 ข้อ 10 ให้ยกเลิกความในมาตรา 22 แห่งพ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา 22 เงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้จัดสรรดังนี้ ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัล, ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เป็นรายได้แผ่นดิน, ไม่เกินกว่าร้อยละ 17 เป็นค่าใช้จ่ายบริหารงาน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย และ ร้อยละ 3 เป็นเงินกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม
 

 ข้อ 11 ให้ยกเลิกความในมาตรา 39 ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา 39 ผู้ใดเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกตามพ.ร.บ.นี้และยังไม่ได้ออกรางวัลเกินราคาที่กาหนดในสลากกินแบ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
 

 ข้อ 12 ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ผบ.ทบ.หรือแม่ทัพภาคมอบหมาย มีอำนาจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งนี้ ไม่กระทบต่อหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
 

 ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
 

 ระหว่างการปฏิบัติการ หากพบว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาตัวแทนจาหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสัญญาดำเนินการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารรายงานให้ผอ. ทราบเพื่อพิจารณาใช้มาตรการทางกฎหมาย โดยเคร่งครัด รวมถึงการส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบตามประมวลรัษฎากร หรือตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน


 ข้อ 13 เมื่อคสช.สิ้นสุดลงตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแล้ว ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และเมื่อได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ให้คำสั่งนี้เป็นอันยกเลิก

 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ประกาศขีดเส้นให้การแก้ปัญหาขายสลากกินแบ่งเกินราคาต้องจบภายในงวด มิ.ย.นี้ โดยจะต้องขายไม่เกิน 80 บาท

 

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X