เมื่อเร็วๆ นี้ ทีมนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโลโมโนซอฟ มอสโก ของรัสเซีย เผยแพร่การค้นพบดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ "2014ยูอาร์116" ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 370 เมตร ขนาดเท่ากับภูเขา และมีวงโคจรที่ตัดข้ามกับวงโคจรของโลกในทุกๆ 3 ปี อาจสร้างปัญหาใหญ่โตขึ้นมาได้หากผ่านเข้ามาระยะแรงดึงดูดของโลก และถูกดูดถล่มลงมายังพื้นโลกในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าจะยังไม่เป็นภัยคุกคามในระยะสั้นนี้ก็ตาม

ศาสตราจารย์วลาดิเมียร์ ลิปูนอฟ จากมหาวิทยาลัยโลโมโนซอฟ ซึ่งเผยแพร่การค้นพบดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ดังกล่าวผ่านทางสารคดีสั้นบนเว็บไซต์ สำนักงานอวกาศรัสเซีย เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ถ้าหากตกลงสู่พื้นโลก ขนาดของ "2014ยูอาร์116" จะส่งผลให้เกิดแรงระเบิดมหาศาลกว่าแรงระเบิดของอุกกาบาตที่ถล่มเมืองเชลยาบินสก์ ในรัสเซียแบบเซอร์ไพรส์เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมาถึง 1,000 เท่า

นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชาวรัสเซียผู้นี้ชี้ให้เห็นอันตรายของ "2014ยูอาร์116" ว่าเป็นเพราะยากที่จะคำนวณวงโคจรของมันให้ได้แน่ชัด เนื่องจาก "2014ยูอาร์116" เป็นเทหวัตถุขนาดใหญ่เมื่อเคลื่อนผ่านระบบสุริยะวงโคจรของมันมักได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ใกล้เคียงให้เปลี่ยนแปลงผิดเพี้ยนไปจากแนวโคจรเดิม

"เราจำเป็นต้องติดตามความเคลื่อนไหวของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ตลอดเวลาเพราะการคำนวณผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงตามมาได้" ศ.ลิปูนอฟระบุ

อย่างไรก็ตาม นาทาน เอสมันท์ ผู้เชี่ยวชาญเทหวัตถุใกล้โลก จากสถาบันวิจัยอวกาศในกรุง มอสโก ยืนยันว่ายังคงมีสิ่งบ่งชี้น้อยมากว่า ดาวเคราะห์น้อย "2014ยูอาร์116" นี้จะพุ่งเข้าชนโลก แม้ว่าในระยะยาวอาจมีความเป็นไปได้ก็ตามที ตอนนี้ปัญหาที่ร้ายแรงกว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ก็คือ บรรดาเทหวัตถุใกล้โลกทั้งหลายที่ประมาณกันว่ามีอยู่ไม่น้อยกว่า 100,000 ดวง ทั้งที่เป็นดาวหางและดาวเคราะห์น้อยต่างๆ และมีเพียง 11,000 ดวงเท่านั้น ที่ถูกตรวจสอบวงโคจรและจำแนกกลุ่มไว้เพื่อติดตามการคุกคาม

ทางด้านโครงการเนียร์ เอิร์ธ อ็อบเจกต์ (นีโอ) ในสังกัดห้องปฏิบัติการเจท โพรพัลชั่น แลบอราทอรี (เจพีแอล) ขององค์การบริหารการบินอวกาศแห่งชาติ (นาซา) สหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า เท่าที่ตรวจสอบจนถึงขณะนี้ "2014ยูอาร์116" ยังจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อโลกอย่างน้อยก็ภายในศตวรรษนี้ เนื่องจากวงโคจรของมันจะตัดผ่านกับวงโคจรของโลกในระยะห่างไม่น้อยกว่า 5 ล้านกิโลเมตร หรือราวๆ 10 เท่าของระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์เท่านั้น

ในเวลาเดียวกัน เมื่อมีการค้นพบแล้ว "2014ยูอาร์116" ก็จะถูกติดตามโดยกล้องโทรทรรศน์ของหอสังเกตการณ์นานาประเทศที่ร่วมมือกันเพื่อป้องกันภัยดาวเคราะห์หรือดาวหางถล่มโลกเช่นนี้อย่างน้อย300 หอสังเกตการณ์ในช่วงระยะเวลา 6 ปี

ซึ่งจะทำให้ "2014ยูอาร์116" มีการติดตามอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเป็นระยะๆ สำหรับเตือนภัยล่วงหน้าหากส่อเค้าจะเป็นภัยคุกคามขึ้นมานั่นเอง


ที่มา  มติชนออนไลน์