|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คริสทีน แอสชเบเชอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติของจอว์โบน ผู้ผลิตสายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยติดตามพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การนอนและการออกกำลังกาย ได้เผยข้อมูลเชิงสถิติว่า ผู้ที่เข้านอนหลังเวลา 23.00 น. มีแนวโน้มที่จะบริโภคอาหารขยะและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นกว่าปกติ
โดยจอว์โบน สายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้กว่าล้านคนทั่วโลก แสดงข้อมูลที่ชี้ว่า ผู้ที่นอนดึกจะบริโภคอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่เกินโดยเฉลี่ย 220 แคลอรี่ต่อวัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะรับประทานอาหารมื้อใหญ่ในช่วงเย็นถึงดึก ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันและน้ำตาล ขณะที่ผู้ที่เข้านอนแต่หัวค่ำจะมีพฤติกรรมการบริโภคที่แตกต่างออกไป ทำให้มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพดีกว่าและเป็นโรคอ้วนน้อยกว่า
ทั้งนี้ สถิติดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับข้อมูลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า การนอนผิดเวลา นอนดึกหรือนอนน้อย จะส่งผลให้ฮอร์โมนควบคุมความรู้สึกอยากอาหารผิดปกติไปด้วย (เกรลิน : Ghrelin เป็นฮอร์โมนกระตุ้นความหิว และเลปติน : Leptin ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกอิ่ม เพิ่มอัตราการเผาผลาญ) ผู้ที่นอนดึกหรือนอนน้อยจึงหิวบ่อย ทำให้รับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากขึ้น จึงมีโอกาสอ้วนได้ง่ายขึ้นไปด้วย
ขอขอบคุณ : metro.co.uk
ที่มา http://www.springnews.co.th/lifestyle/279665