|
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจ หรือ เอเปค (APEC) ที่เมืองบาหลี โดยเสนอว่า ต้องตั้งเป้าหมายการพัฒนาให้ชัดเจน หนุนยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา สำหรับประเทศพัฒนาน้อย
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2556 ที่เมืองบาหลี อินโดนีเซีย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC) แล้ว ด้วยการหารือกับผู้แทนที่ปรึกษาทางธุรกิจ ก่อนจะร่วมประชุมระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจในช่วงบ่าย
สำหรับการหารือกับผู้แทนที่ปรึกษาทางธุรกิจ เป็นการรับทราบรายงานประจำปีของสภาที่ปรึกษาฯ ซึ่งมีประเด็นที่ไทยให้ความสนใจ ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร การเชื่อมโยงในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งการสนับสนุนการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
จากนั้น ในการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสภาที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีของไทย อยู่ในกลุ่มที่ 2 ร่วมกับผู้นำของจีน แคนาดา ปาปัวนิวกินี โดยสภาที่ปรึกษาฯ ได้สนใจเกี่ยวกับนโยบายการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของไทย ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ระบุว่า รัฐบาลไทยมีแนวทางสำคัญในเรื่องนี้ ได้แก่
1. การสร้างการเติบโตอย่างสมดุล โดยมีมาตรการการสนับสนุนด้านการผลิต การค้า และบริการ
2. การยกระดับขีดความสามารถเพื่อการแข่งขัน โดยการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) นวัตกรรมการผลิต และการบริหารจัดการ
3. การยกระดับขีดความสามารถเพื่อความเป็นสากล โดยการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและการลงทุน เช่น การนำคณะผู้ประกอบการร่วมคณะนายกรัฐมนตรีไปต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีมาตรการด้านการช่วยเหลือภาคการเงิน การออกแบบ และการเพิ่มมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าด้วย
จากนั้นในเวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของอินโดนีเซีย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในช่วงแรก ที่โรงแรมโซฟิเทล บาหลี อินโดนีเซีย โดยที่ประชุมกำหนดหัวข้อการหารือ คือ บทบาทของเอเปคในการสร้างเสริมระบบการค้าพหุภาคีในสภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวยืนยันถึงนโยบายของไทยต่อประเด็นการค้าพหุภาคีว่า การเติบโตของภูมิภาคขึ้นอยู่กับความพยายามร่วมกันในระดับพหุภาคี และระบบการค้าพหุพาคียังต้องได้รับการส่งเสริมต่อไป ซึ่งองค์กรการค้าระหว่างประเทศ (WTO) กำหนดมาตรฐานสำหรับระบบการค้าที่อยู่บนกฎกติกา โดยไทยยืนยันสนับสนุน WTO รวมถึงพร้อมมีส่วนร่วมและสนับสนุนกระบวนการ โดยการเข้าร่วมในข้อริเริ่มการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตาสำหรับประเทศพัฒนาน้อยที่สุด
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้แสดงความคิดเห็นด้วยว่า การเปิดเสรีการค้าและการลงทุนเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนได้ จึงต้องพิจารณาจัดตั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ชัดเจน ซึ่งไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชีย-แปซิฟิก ในหัวข้อเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสววรษสู่วาระการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ปี พ.ศ. 2558
อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เสนอให้บรรจุประเด็นนี้ไว้ในการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาของเอเปค และวิสัยทัศน์การเป็นประชาคมเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการทางการค้า การลงทุน และการเติบโตทางเศรษฐกิจมีความสอดคล้องกับความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ เช่น การจ้างงาน ความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงการให้อำนาจประชาชนและประชาคม เป็นต้น