ผู้กำกับทรงยศ สุขมากอนันต์ พูดถึงที่มาที่ไป แรงบันดาลใจ และอะไรคือหนังคอนเสิร์ต Bodyslam นั่งเล่น
2013-04-05 14:46:43
Advertisement
คลิก!!!

 

Bodyslam นั่งเล่น” หนังคอนเสิร์ตผลงานภาพยนตร์ของทรงยศ สุขมากอนันต์ ได้ปล่อยตัวอย่างออกมาตั้งแต่สัปดาห์ได้สองสัปดาห์แล้วครับ หลายคนคงได้เห็นไปแล้วว่าหน้าตาของหนังจะออกมายังไง หนังเป็นการถ่ายทอดการแสดงคอนเสิร์ตของวงบอดี้สแลม วงดนตรีที่ถือว่าเป็นแถวหน้าของวงการดนตรีบ้านเราในยุคนี้ ที่เรียกว่า “Bodyslam นั่งเล่น” เมื่อพฤศจิกายนปี 2554 และผู้กำกับทรงยศได้ใช้เวลาตัดต่อฟุตเตจตลอดช่วงปี 2555 ทั้งปี เพื่อให้ออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ เราได้อีเมลสัมภาษณ์ผู้กำกับเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับหนังมากขึ้นสำหรับแฟนๆ ที่อยากดูหนังครับ

นอกจาก “บอดี้สแลม นั่งเล่น” จะเป็นหนังแล้ว ยังมีฉบับดีวีดีที่ยาว 4 ชั่วโมงออกมาด้วย เป็นงานตัดต่อของทรงยศทั้งคู่ แต่ผู้กำกับบอกครับว่าดีวีดีกับหนังจะแตกต่างกันแน่นอน ”จริงๆผมต้องตัด 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่น DVD ความยาวเต็มคอนเสิร์ต คือ 4 ชั่วโมง กับเวอร์ชั่นหนังที่ต้องสั้นลงเหลือ 2 ชั่วโมงครึ่ง ตั้งใจว่าจะตัดให้ไม่เหมือนกันด้วยฟุตเตจเดียวกันนี่แหละครับ ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นคอนเสิร์ต ไม่ใช่หนังสารคดีเบื้องหลัง

ทรงยศขยายความให้ฟังต่อว่า “คือการที่คนทำหนังไปดูซ้อมวง ไปฟังมู้ดเพลงที่อเรนจ์ใหม่ ไปประชุทสคริปต์คอนกับเค้า แล้วเกิดแรงบันดาลใจออกไปถ่ายภาพในคอนเสิร์ต แล้วนำมาตัดต่อ เรียบเรียง มันก็จะออกมาเป็นภาพคอนเสิร์ตแบบที่มีมู้ดภาพยนตร์อยู่น่ะครับ ไม่รู้ผมอธิบายให้เข้าใจเปล่า ตอนวงมาดูคัตติ้งแรกๆ ก็จะติดว่าทำไมเราตัดลงบีทแบบแปลกๆ คือมันจะไม่ใช่จังหวะเหมือนกล้องสวิชต์ไปรับเครื่องดนตรีที่เล่น แต่มันจะเป็นจังหวะแบบตอนนี้เราอยากให้คนดูเห็นอะไร

ยิ่งพูดยิ่งงง เอาเป็นว่าคนดูที่ไม่คุ้นอาจรู้สึกแปลกๆเหมือนตอนวงมาดูครั้งแรก แต่พอตัดเวอร์ชั่น DVD เสร็จตั้งแต่พ.ย.ปีที่แล้ว เราก็เริ่มตัดหนัง ยิ่งอยู่กับฟุตเตทนานเราก็ยิ่งเห็นทิศทางใหม่ๆ และตัดหนังออกมาด้วยมู้ดอีกแบบจากฟุตเดียวกัน ปรากฎว่าตูน(อาทิวาร์ คงมาลัย นักร้องนำ) ชอบเวอร์ชั่นหนังซึ่งยาว 2ชั่วโมงครึ่งมาก และขอให้เอาเวอร์ชั่นนี้ลงดีวีดีด้วยเลย ไม่อยากให้มี 2 เวอร์ชั่นสุดท้ายก็เลยเหลือเวอร์ชั่นเดียว 2 ชั่วโมงครึ่งฉายโรงเสร็จ ลงดีวีดีต่อ แต่ดีวีดีมีเพลงที่ตัดทิ้งเหมือน Delete Scene ครับ

ส่วนคำถามที่ว่าผู้กำกับทรงยศได้มากำกับหนังคอนเสิร์ตเรื่องนี้ได้ยังไง ฟังดูแล้วเหมือนเป็นชะตาลิขิตนิดๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลงานเรื่องก่อนหน้าด้วยครับ

 

มันเกิดขึ้นตอนผมออกกองวัยรุ่นพันล้าน

ทุกครั้งที่ทำหนัง มันจะเหนื่อย ปวดหัวกับสารพันปัญหาและเครียด ก่อนออกกองวัยรุ่นพันล้านทุกคิว ผมตื่นตี4ครึ่ง อาบน้ำ และจะเปิดอัลบั้มครามฟังในห้องน้ำทุกครั้งก่อนออกกองตั้งแต่คิวแรกยันคิวสุดท้าย คือฟังแล้วมันฮึกเหิม อยากออกไปทำงานให้มันดี ตอนนั้นจะอินกับ “แสงสุดท้าย” มากมันเลยกลายเป็นเพลง End credit น่ะครับ

ยังไม่เข้าประเด็น” ทรงยศแซวตัวเอง

ผมฟังทุกเช้าตอนอาบน้ำไปจนถึง 2-3 คิวสุดท้าย ตอนนั่งรถตู้ไปออกองตอนเช้า อยู่ๆผมก็หยิบโทรศัพท์มาทวิตว่าฟังอัลบั้มครามทุกเช้าในห้องน้ำก่อนออกกองแล้วมีพลัง แล้วผมแท็ก อ๊อฟ Big ass โปรดิวเซอร์บอดี้สแลมไปด้วย (คือผมกับกบและอ๊อฟคุ้นเคยกันตอน Big ass มาทำ อย่างน้อย ให้ปิดเทอมใหญ่)

คืนนั้นหลังออกกองเสร็จผมสลบเหมือด ก็มีมิสคอลจากพี่เต็ด (ยุทธนา บุญอ้อม ผู้อำนวยการสร้างของ Bodyslam นั่งเล่น) เข้ามา ซักพักก็ส่งเมสเสจมาว่าจะชวนมาทำหนังให้คอนเสิร์ตบอดี้สแลมนั่งเล่น อยากทำมั๊ย อ๊อฟเค้าเสนอชื่อผมในที่ประชุม โชคชะตาพาผมมาทำนะผมว่า 5555

ผมไม่ลังที่จะทำแต่กังวลเรื่องเวลาเพราะงานยุ่ง แต่อยากทำเพราะ กบ เพราะ อ๊อฟ เพราะ Bodyslam และพี่เต็ดครับ

ตัวหนังเป็นหนังคอนเสิร์ต ก็คงมีการแสดงคอนเสิร์ตเป็นตัวเล่าเรื่องราวอยู่แล้ว แต่คุณย้งใส่เรื่องราว หรือข้อความอะไรที่อยากบอกคุณดูเป็นพิเศษไหมครับ นอกจากการแสดงของศิลปิน และเบื้องหลังการทำงาน ถ้าบอกได้นะครับ

จริงๆ หลักๆ เป็นคอนเสิร์ต และด้วยความที่นั่งเล่นไม่เหมือนคอนบอดี้ทั่วไป มันเป็นคอนที่บอดี้สแลมไม่พูดเรื่องไกลตัว ไม่บินได้ ไม่เพื่อประเทศชาติ แต่มันพูดถึงตัวเอง ความฝัน คนที่เป็นแรงบันดาลใจ คนที่ช่วยเหลือ คนใกล้ชิด ครอบครัว แฟนเพลง และตูนมันก็เอนเตอร์เทนได้รีแล็กซ์แบบที่เราไม่เคยเห็น แค่จับประเด็นและทัศนคติของวงและตูนได้มันก็พอแล้ว ที่เหลือก็อาศัยความเป็นคนทำหนังเอาภาพหลังเวทีเล็กๆน้อยๆมาตัดต่อให้เกิดอารมณ์และเรื่องสนับสนุน แล้วใช้คั่นเพื่อตัดและส่งเพลงน่ะครับ หนังเรื่องนี้มันจะ big close up บอดี้สแลม

ผู้กำกับทรงยศทวีตข้อความตอนปล่อยตัวอย่างหนังออกมาครับว่าหนังคอนเสิร์ต Bodyslam นั่งเล่น เรื่องนี้ “เป็นหนังคอนเสิร์ตเรื่องแรกและอาจเป็นเป็นเรื่องเดียว“ของเขาครับ อดถามไม่ได้ว่าทำไมบอกแบบนั้น ซึ่งผู้กำกับก็ใจดีเล่าให้ฟังว่า

ทำงานแบบนี้มันต้องการแรงบันดาลใจน่ะครับ ผมชอบเพลงบอดี้สแลม ชอบบิ๊กแอส ยิ่งได้มารู้จักตัวตนยิ่งชอบ พวกนี้เค้าเป็นพวกจริงจัง หมกมุ่น เวลาไปดูวงซ้อมนานๆ ตูนมันจะเดินมาบอกว่า พี่อย่าเพิ่งเบื่อนะ ผมไม่เคยเบื่อเลย ผมชอบดูคนที่เค้าทำสิ่งที่เค้ารักด้วยความจริงจัง มันมีพลังที่น่าสนใจ ในฐานะคนทำหนังเราคงไมทำอะไรที่เราเคยทำไปแล้วบ่อยๆ

แล้วผมไม่สามารถทำสิ่งนี้กับวงดนตรีใดๆก็ได้ งานแบบนี้ถ้ามันไม่อินกับวงกับเพลง มันจะคิดอะไรไม่ออกเลย ไม่เห๋นภาพอะไรเลยน่ะครับ คิดไม่ออกว่าจะได้ทำอะไรแบบนร้อีกได้ยังไง อาจเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต

Bodyslam นั่งเล่น จะออกฉายในโรง 18 เมษายนนี้ครับ ด้านล่างนี้คือตัวอย่างหนังกับใบปิดครับ เผื่อคุณยังไม่ได้ชมกัน

body slam movie poster

 

http://jediyuth.com

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X