ทางการจีนยันชาวอุยกูร์ 109 คนถูกไทยส่งกลับ มีแผนไปเป็นนักรบญิฮัดที่ตุรกี!!
2015-07-12 15:28:46
Advertisement
คลิก!!!

ภาพจาก Xinhuanet.com

กระทรวงตำรวจจีนออกโรงยืนยัน ชาวมุสลิมอุยกูร์ 109 คนที่ถูกทางการไทยส่งตัวกลับจีน มีแผนเดินทางไปเป็นนักรบญิฮัด ในตุรกี ซีเรีย หรืออิรัก พร้อมระบุ ในจำนวนนี้ 13 คน เคยลงมือก่อการร้าย และ 2 คนได้แหกคุกหลบหนีออกจากจีน

วันที่ 11 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงตำรวจของจีนยืนยันเมื่อวันเสาร์ที่ 11 ก.ค. ว่า ผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ชาวมุสลิมอุยกูร์ จำนวน 109 คน ซึ่งถูกทางการไทยเนรเทศส่งตัวกลับจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น มีแผนการเดินทางไปเป็นนักรบญิฮัดในประเทศตุรกี ซีเรีย หรืออิรัก

โดยจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนพบว่า มีแก๊งคนหัวรุนแรงทางศาสนาหลายแก๊งในตุรกี ที่มีการเกณฑ์ผู้คนด้วยการปลุกระดมชักชวนให้พวกเขาเดินทางไปซีเรีย และอิรัก เพื่อเข้าร่วมเป็นนักรบญิฮัด นอกเหนือจากนั้นเจ้าหน้าที่จีนยังมีการสืบทราบด้วยว่ามีนักการทูตชาวตุรกีหลายคนที่ประจำการอยู่ในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) บางประเทศที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเคลื่อนไหวผิดกฎหมายนี้ทำได้ง่ายขึ้น

ตามรายงานของกระทรวงตำรวจของจีน ยังระบุด้วยว่า ชาวจีนหัวรุนแรงหลายคน และเหล่าหัวหน้าแก๊ง ซึ่งรู้จักในชื่อ ‘พวกปลาช่อน’ ได้ถูกเนรเทศออกจากประเทศในอาเซียนปีนี้ ขณะที่ผู้อพยพผิดกฎหมาย 109 คน ที่ถูกส่งกลับมายังประเทศจีน ในสัปดาห์นี้ ปรากฏว่า 13 คนได้หลบหนีออกจากจีนไปหลังจากร่วมมือกันก่อการร้าย และอีก 2 คน ได้หลบหนีออกจากสถานคุมขัง

กระทรวงตำรวจของจีน ยังแจ้งว่า ตามรายงานเกี่ยวกับประวัติผู้อพยพผิดกฎหมาย 109 คน พบว่า คนเหล่านี้ส่วนมากถูกปลุกปั่นยุยงให้กลายเป็นคนหัวรุนแรง โดยสื่อที่เผยแพร่จากสภาอุยกูร์โลก และขบวนการอิสลาม เตอร์กีสถานตะวันออก ส่วนชาวจีนพวก ‘ปลาช่อน’ หลายคนนั้น ยังรวมถึงนายมีห์มุต โอบูลีลา ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ถูกส่งกลับมาจีน ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า แก๊งเหล่านี้ได้มีการจัดตั้งมาอย่างดีและจัดระบบตามลำดับขั้นที่ชัดเจน โดยได้ดำเนินการให้คนที่ถูกชักชวนมาเดินทางทั้งทางบกและทางทะเล ผ่านหลายประเทศ รวมทั้งเวียดนาม กัมพูชา ลาว และไทย เพื่อเข้าไปยังตุรกี และหลังจากเดินทางถึงตุรกีแล้ว กลุ่มก่อการร้าย ETIM จะนำคนเหล่านี้ไปยังซีเรียเพื่อร่วมในการสู้รบ

 

ที่มา:criEnglish.com

ขอขอบคุณที่มา  ไทยรัฐออนไลน์

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X