ตรวจวัดความดันทั้ง 2 แขน เจาะลึกโรคที่อาจแฝงตัว (Momypedia)

เวลาเราไปตรวจสุขภาพ หรือป่วยจนต้องพบหมอ ทุกครั้งที่ตรวจความดันพยาบาลมักจะเช็คที่แขนเพียงข้างเดียวใช่ไหมคะ แต่ทราบไหมเอ่ยว่าจริง ๆ แล้วเราควรจะตรวจความดันทั้งแขนซ้ายและแขนขวาเลยล่ะค่ะ เพราะแขนทั้ง 2 ข้างมีความดันไม่เท่ากัน

ดอกเตอร์คริสโตเฟอร์ คลาร์ก แห่งวิทยาลัยการแพทย์และทันตกรรม แพนซิลเวเนีย ให้ข้อมูลว่า จริง ๆ แล้วแขนของคนเราทั้ง 2 ข้างมีความดันไม่เท่ากัน และถ้าสังเกตให้ดี หมอหรือพยาบาลมักจะวัดความดันโลหิตที่แขนข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งดอกเตอร์คลาร์ก แนะนำว่า ในการตรวจโรค และความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด โรคหลอดเลือกดหัวใจ และหลอดเลือดในสมอง ทางที่ดีควรจะตรวจวัดความดันที่แขนทั้ง 2 ข้าง จากนั้นจึงค่อยนำค่าที่ได้หาความต่าง และประมวลผล

จากการศึกษาเบื้องพบว่า หากความดันของแขนทั้ง 2 ข้างต่างกันประมาณ 10 มิลลิเมตรปรอท (mm Hg) อาจมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดชนิดที่ไม่ปรากฏอาการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับหลอดเลือดแดงที่ส่งเลือดไปเลี้ยงขาและเท้า

หากความดันของแขนทั้ง 2 ข้างต่างกันประมาณ 15 มิลลิเมตรปรอท (mm Hg) อาจมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดในสมอง

ดอกเตอร์คลาร์ก แนะนำเพิ่มเติมว่าจริง ๆ แล้วการตรวจวัดความดันด้วยแขนข้างเดียวเป็นการตรวจสุขภาพแบบมาตรฐานอยู่แล้วทั่วโลก แต่การตรวจความดันทั้ง 2 แขนที่ใช้การการตรวจสุขภาพทั่วไปยังไม่ค่อยมีโรงพยาบาลไหนทำกัน หรือแทบจะไม่มีเลย รวมถึงอาจจะยังไม่ทราบถึงประสิทธิภาพในการตรวจที่สามารถบ่งชี้โรคให้คนไข้ได้มากกว่าเดิม

ดังนั้นผลการศึกษานี้แม้จะเป็นประโยชน์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ และดุลยวินิจของแพทย์เองด้วยว่าควรทำหรือไม่ แต่ในอีกทางหนึ่งก็เป็นสิทธิ์และข้อเรียกร้องของเราเองเช่นกันว่า เราจะขอให้แพทย์หรือพยาบาลวัดความดันแขนทั้ง 2 ข้าง เพื่อเปรียบเทียบค่าความต่าง และนำไปใช้วินิจฉัยโรคให้ชัดเจนยิ่งขึ้นหรือไม่

เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญค่ะ อะไรที่คาดว่าและได้รับการศึกษาว่าน่าจะเป็นประโยชน์ และเป็นสิ่งที่พอทำได้ก็น่าสนใจนะคะ แต่อย่าลืมนึกถึงความเชื่อมั่น และความเชี่ยวชาญของคุณหมอด้วยค่ะ เพราะคุณหมอแต่ละท่านก็มีความเชี่ยวชาญ น่าเชื่อถือ และเต็มใจรักษาสุขภาพเราเต็มที่อยู่แล้วค่ะ

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม