บทความต้นฉบับโดย ฮาแจกึน (Ha Jae-geun) นักวิจารณ์วัฒนธรรม ในนิตยสาร Sisa, นิตยสารรายสัปดาห์ของเกาหลี ตีพิมพ์ตั้งแต่ ปี 1989

ความไม่พอใจของสังคมที่มีต่อกรณีคลับ Burning Sun ได้เพ่งเป้าไปที่ซึงริ (Seungri) ตั้งแต่เริ่มต้น สังคมรับรู้ว่าซึงริ คือต้นตอของการกระทำผิดต่างๆในคลับ Burning Sun และตั้งแต่เรื่องห้องแชทจากโทรศัพท์ของจองจุนยอง (Jung Joon-young) ถูกเปิดเผย คนก็มุ่งความสนใจและความโกรธไปที่เหล่าคนดังที่อยู่ในห้องแชทนั้น ห้องแชทดังกล่าวเต็มไปด้วยวิดีโอ/ภาพแอบถ่ายผิดกฎหมาย, การค้าบริการทางเพศ และความเกี่ยวข้องกับตำรวจ การค้นหาความจริงในเรื่องต่างๆขยายออกไปเหมือนไฟลามทุ่ง

ตำรวจได้เริ่มต้นสอบสวน และมีการเรียกตัวมาสอบปากคำหลายครั้ง นอกจากคนในวงการที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แล้ว ยังมีธุรกิจอย่าง Yuri Holdings ที่ ซึงริ และ ยูอินซอก ( Yoo In-seok) ก่อตั้งด้วยกัน รวมถึงร้านอาหารกึ่งคลับ Monkey Museum และธุรกิจบันเทิงอื่นที่พวกเขาทำด้วยกัน

จากการเริ่มต้นสืบสวนทำให้สามารถสาวไปยังความผิดอื่น ทั้งการจัดหาหญิงสาวเพื่อค้าประเวณี, การฉ้อโกงเงินลงทุนกว่า 100 ล้านวอนจาก Yuri Holdings และ Burning Sun, การหลบเลี่ยงภาษีที่ Monkey Museum, การติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจนามสกุลยุน ด้วยบัตรคอนเสิร์ต และการเผยแพร่ภาพถ่ายผิดกฎหมาย จองจุนยองถูกตั้งข้อหาจัดทำและเผยแพร่วิดีโอผิดกฎหมาย 13 คลิป, ชเวจงฮุน ถูกตั้งข้อหาจัดทำ 1 กระทง และเผยแพร่ 6 กระทง นอกจากนี้ยังมีความผิดข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกรณีเมาแล้วขับ และติดสินบนภรรยาของเจ้าหน้าที่ตำรวจยุนด้วยตั๋วคอนเสิร์ต ห้องแชทที่จองจุนยองและชเวจงฮุนเป็นสมาชิกมีทั้งหมด 23 ห้อง และมีคนในวงการคนอื่น 16 คนรวมอยู่ในนั้นด้วย

ทั้งซึงริ, Yuri Holdings และ คนในวงการบันเทิงถูกตั้งข้อหา แต่มีส่วนน้อยเท่านั้นที่จะพูดถึงจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ในครั้งนี้ นั่นก็คือคลับ Burning Sun ความสนใจส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่คนดัง สำนักข่าวก็โฟกัสกันแต่เรื่องจะมีคนดังคนใดถูกแฉจากคดีนี้อีก โดยเฉพาะซึงริที่น่าจับตามองว่าเขาจะถูกจับกุมตัวและลงโทษอย่างไร ตำรวจดูเหมือนตั้งใจจะให้คนหันไปสนใจบทลงโทษของซึงริ ผลักดันให้เขากลายเป็นตัวละครหลัก แล้วประชาชนก็ลืมเลือนคลับ Burning Sun ไป

ความจริงคือทั้ง Burning Sun และ คนดังเหล่านั้นต่างเกี่ยวข้องกัน ที่น่าสนใจคือทำไมความสนใจในการสืบสวนไม่พุ่งเป้าไปอย่างเท่าเทียมกัน แต่กลับสนใจความผิดของซึงริ, จองจุนยอง และคนอื่นกันมากกว่า

ชาวเน็ตบางคนที่ให้ความสนใจกับกรณีของคลับ Burning Sun มากกว่า ได้วิจารณ์บทความต่างๆที่เขียนแค่เรื่องของซึงริ และจองจุนยอง ทำไมถึงไม่มีคนขุดคุ้ยเรื่องของคลับ Burning Sun ล่ะ? หรือแค่ได้รับรู้ความผิดของคนดังเหล่านี้ก็พอแล้ว? หลายคนต้องทำความเข้าใจก่อนว่า 2 เรื่องนี้เกี่ยวข้องกันก็จริง แต่ก็ยังเป็นคนละเรื่องกัน และทั้งคลับเอง และตัวเหล่าคนในวงการบันเทิงเองก็ต้องถูกสืบสวนให้ชัดเจน ไม่ควรพูดถึงแต่เรื่องหนึ่งเพื่อให้ข่าวของอีกเรื่องหนึ่งถูกกลบไป

แต่ดูเหมือนว่าเรื่องของ Burning Sun จะถูกกลบโดยข่าวของเหล่าคนดังไปเสียแล้ว ช่วงเริ่มต้นที่รู้ว่ามีเรื่องห้องแชท หลายคนจะให้ความสนใจก็ไม่แปลก เนื่องจากมีคนดังที่มีชื่อเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจากนั้นเราควรหันกลับมาให้ความสนใจกับกรณีของ Burning Sun กันต่อ แต่ดูเหมือนว่าข่าวคนดังเหล่านี้ยังถูกเสนออย่างต่อเนื่อง จนลืมเรื่องของคลับ Burning Sun ไป

การเริ่มต้นเปิดเผยความจริงของ Burning Sun เราต้องรู้ก่อนว่า เจ้าของคลับที่แท้จริงคือใคร? ควรมีการสืบสวนผู้ถือหุ้นของคลับ อย่างไรก็ตามทั้งตำรวจและสื่อต่างปล่อยตัวผู้ถือหุ้นคนอื่นไป คว้าไว้แค่เพียงซึงริอยู่ในฐานะผู้ก่อตั้ง Yuri Holdings ที่มีหุ้น 20 % ในคลับ

รายการ We Want to Know The Truth ทางช่อง SBS ซึ่งมีผู้ชมจำนวนมาก สรุปโดยไม่มีหลักฐานว่า ซึงริและเพื่อนของเขาเหมือนตัวขับเคลื่อนคลับ Burning Sun สื่อดังกล่าวพยายามทำให้ซึงริ กลายเป็น ‘คำตอบ’ ของปัญหาทั้งหมดที่คนสนใจกันอยู่ และนำเสนอเฉพาะเรื่องที่ทำให้ผู้คนสนใจเท่านั้น สื่อกลายเป็นผู้ที่ออกล่าซึงริ ด้วยการปล่อยข่าวซึ่งบางครั้งไม่มีหลักฐาน อีกทั้งยังนำเสนอไปในแนวทางที่ว่าทุกอย่างที่เขาบอกในสืบสวนเป็นเรื่องแต่งขึ้น

สาเหตุที่เราควรให้ความสนใจกับคลับ Burning Sun มากขึ้นก็เพราะว่า ปัญหาคลับของเกาหลีใต้นั้นเรื้อรังมาเป็นเวลายาวนาน ทั้งเรื่องยาเสพติด, อาชญากรรมทางเพศ, หลบเลี่ยงภาษี และ การมีส่วนเกี่ยวข้องกับคลับของเจ้าหน้าที่รัฐ คลับใหญ่ย่านกังนัมต่างถูกสงสัยด้วยเรื่องพวกนี้ รวมถึงคลับ Burning Sun เองด้วย

จูวอนคยู ผู้ที่เคยอยู่ในวงการคลับใหญ่ย่านกังนัมเปิดเผยว่า รายได้ที่ได้รับจากธุรกิจคลับนั้นทำให้คุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ ทั้งยาเสพติด,อาชญากรรมทางเพศ, การแอบถ่ายอย่างผิดกฎหมาย และการข้องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐถือเป็นเรื่องร้ายแรง เรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อนที่คลับ Burning Sun จะเปิดเสียอีก หลายคนบอกว่าปัญหาของ Burning Sun ที่ถูกเปิดเผยออกมาก็แค่ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งที่มีเรื่องอีกมากมายที่เรายังมองไม่เห็นซ่อนอยู่ใต้น้ำ

นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “Burning Sun Gate” คนชั้นสูงหลายคนของเกาหลีทำเรื่องผิดหลายอย่างในคลับใหญ่ย่านกังนัม และคาดว่ามีผู้หญิงหลายคนถูกทำร้าย เรื่องราวของ Burning Sun ควรถูกเปิดเผยมากกว่านี้ แต่ตำรวจและสื่อกลับสนใจแต่เรื่องของซึงริและคนดังคนอื่น ช่วงเวลานี้คลับใหญ่คลับอื่นคงมีเวลาในการเก็บกวาดเรื่องที่อาจทำให้ลูกค้า VIP และคลับของพวกเขาถูกประณามจากสังคมได้อย่างเรียบร้อยและยากที่จะตามสืบสวนไปแล้ว

หากตำรวจและสื่อให้ความสนใจต่อคลับในย่านกังนัมเทียบเท่ากับที่สนใจเหล่าคนดัง ปัญหาหลายอย่างคงถูกเปิดเผยแล้วในตอนนี้ เบาะแสอีกอย่างคือข่าวของฮวังฮานาที่ถูกจับกุมด้วยข้อหาใช้สารเสพติด เธอเป็นหลานสาวของผู้ก่อตั้งบริษัท Namyang Dairy และยังเป็นลูกค้า VIP ของคลับ Burning Sun เธอสนิทสนมกับผู้จัดการของคลับดังกล่าวซึ่งถูกจับกุมในข้อหายาเสพติดเช่นกัน ฮวังฮานานั้นเคยถูกสงสัยในข้อหาขายและเสพยามาแล้วแต่คาดว่าครั้งก่อนเธอรอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากตำรวจและอัยการ แค่ลูกค้า VIP ของคลับแค่ 1 คนอย่างฮวังฮานา เรายังสามารถสาวความผิดเกี่ยวโยงไปถึงตำรวจ อัยการ และบุคคลรอบตัวเธอได้ แล้วหากลูกค้า VIP คนอื่นถูกจับกุมได้อีกล่ะ คิดว่าเรื่องนี้จะขยายวงกว้างออกไปได้แค่ไหน นี่คือโอกาสที่จะเผยโฉมหน้าอีกด้านหนึ่งของสังคมเกาหลีใต้เลยล่ะ

การเปิดเผยความจริงและแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมานานของคลับในเกาหลีคือการแก้ปัญหาเหตุการณ์ “Burning Sun Gate” อย่างแท้จริง ความจริงไม่อาจเปิดเผยได้หากเรายังคงพุ่งเป้าสนใจแต่ซึงริ หรือ เพื่อนคนดังของเขา ถ้าตำรวจและสื่อหันไปสนใจสืบสวนคลับ Burning Sun สุดท้ายแล้วชื่อซึงริก็จะปรากฎว่าเกี่ยวข้องกับคลับอยู่ดี

ที่มา https://www.allkpop.com

แปลโดย http://popcornfor2.com