หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานว่าตำรวจในเขตดอง ดา บอกว่าแมวเหล่านั้นมาจากประเทศจีน ไม่มีเอกสารระบุต้นทางและไม่ผ่านการกักกันก่อนเข้าเมือง หลายตัวในจำนวนนี้ตายแล้วและส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งซึ่งส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและอาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ดังนั้นทางการจึงต้องทำลายแมวเหล่านั้นด้วยการฝังกลบ ตำรวจไม่ได้บอกว่ามียังมีแมวเป็น ๆ อยู่กี่มากน้อยตอนที่ถูกนำไปฝัง

ทั้งนี้ สัตว์ประเภทอื่นรวมทั้งไก่ ที่ถูกลักลอบนำเข้า จะถูกทำลายด้วยวิธีเดียวกัน

ด้านสมาพันธ์คุ้มครองสัตว์แห่งเอเชีย ระบุว่าได้ยินข่าวเรื่องนี้ และเรียกร้องให้ยุติการกระทำดังกล่าว

ขณะที่ Global Conservation Group กลุ่มพิทักษ์ในสหรัฐ รวบรวมรายชื่อผู้คัดค้านการกำจัดแมวดังกล่าวผ่านทางออนไลน์และยื่นต่อสถานทูตเวียดนามในสหรัฐแต่ไร้ผล

ด้านประธานสมาคมสวนสัตว์ของเวียดนามบอกกับเดอะการ์เดียนว่า การกำจัดแมวเหล่านั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการแพร่โรคและยับยั้งการนำเข้าในลักษณะนี้อีก “วิธีกำจัดสัตว์ที่ลักลอบนำเข้าที่ดีที่สุดคือการเผา แต่อาจเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า ทางการเลยเลือกฝังทั้งเป็น ซึ่งยังถือว่าเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย” หรืออีกวิธีหนึ่งทางการเวียดนาม อาจตรวจดูแมวแต่ละตัวว่ามีโรคหรือไม่ก่อนตัดสินใจว่าจะกำจัดหรือไม่ แต่ทางการไม่ต้องการให้นำแมวเหล่านี้ไปขายให้ภัตตาคาร

เนื้อแมวหรือที่รู้จักกันในเวียดนามว่า “เสือน้อย” เป็นอาหารชั้นเลิศราคาแพง แม้ทางการจะห้ามรับประทาน แต่ก็พบว่ามีการขายเนื้อแมวในภัตตาคารหลายแห่ง ทางการเวียดนามห้ามค้าเนื้อแมวมานานแล้ว เพื่อส่งเสริมให้คนเลี้ยงแมวและช่วยคุมประชากรหนูให้ได้

เดอะการ์เดียนรายงานด้วยว่า ไม่ค่อยมีใครเห็นแมวออกมาเพ่นพ่านตามท้องถนนในเวียดนาม เจ้าของส่วนใหญ่จะผูกแมวไว้ในบ้าน กลัวคนจะมาขโมย ในขณะที่ความต้องการเนื้อแมวมีสูงมาก บางครั้งจึงมีการลักลอบนำเข้าจากจีน ลาว และไทย

ที่มา www.facebook.com/BBCThai