เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 58 ทางการจีนประกาศปิดสนามกอล์ฟผิดกฎหมาย 66 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของสนามกอล์ฟทั้งหมดในประเทศ นับเป็นความพยายามต่อต้านกีฬากอล์ฟระยะยาว

กระทรวงพาณิชย์เผย มีเจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งถูกสอบสวน เพราะพัวพันกับเกมกีฬากอล์ฟ ซึ่งถือว่าขัดต่อกฎ 8 ข้อ ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ต่อต้านการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และการถูกสอบสวนภายใตการบริหารของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก็เท่ากับว่ามีความผิดแล้ว โดยนับจากผู้นำแดนมังกรประกาศต่อต้านคอร์รัปชันเมื่อ 2 ปีก่อน ก็มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับต่างๆ นับหลายคนถูกตรวจสอบ

ที่ผ่านมา เหมา เจ๋อตง อดีตผู้นำจีนเคยต่อต้านกอล์ฟ ด้วยเหตุว่า กอล์ฟเป็นกีฬาสำหรับคนรวย แม้ในช่วงกลางยุค 1980 จีนจะเปิดประเทศมากขึ้นและอนุญาตให้มีการเล่นกอล์ฟ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ แต่กอล์ฟยังถูกมองในแง่ลบ เพราะการก่อสร้างและการบำรุงสนามกอล์ฟต้องใช้ทรัพยากรมาก ในขณะที่จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ จากประชากรทั้งหมดบนโลก, มีน้ำอยู่เพียง 7 เปอร์เซ็นต์ และพื้นที่เพาะปลูก 9 เปอร์เซ็นต์ แถมพื้นที่หนึ่งในห้าก็เต็มไปด้วยมลพิษ ดังนั้นการใช้พื้นที่ทำสนามกอล์ฟและการใช้น้ำดูแลสนามกอล์ฟจึงเป็นสิ่งไม่คุ้มค่า

ปัจจุบัน กอล์ฟ ยังเป็นกีฬาต้องห้ามสำหรับคนทั่วไป เพราะค่าใช้จ่ายแพง มีเพียงไม่กี่คนที่มีศักยภาพพอในการจ่ายเงินไปกับกีฬาฟุ่มเฟือยนี้ ตอนนี้มีทีมสอบสวนคอยสังเกตการณ์สนามกอล์ฟต่างๆ ในมณฑลกว้างตุ้ง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดกอล์ฟในจีน เพื่อดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนเข้าไปใช้บริการบ้าง นอกจากนั้น ยังมีการเปิดสายด่วนให้ประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ละเมิดกฎด้วย

แม้ทางการจีนจะเดินหน้าต่อต้านไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเล่นกอล์ฟ และพยายามปิดสนามกอล์ฟต่างๆ แต่กลับมีข่าวเกี่ยวกับการสนับสนุนกอล์ฟออกมาให้เห็น โดยก่อนหน้าจะมีการประกาศต่อต้านกอล์ฟครั้งล่าสุด ได้มีข่าวระบุว่า ไทเกอร์ วูดส์ นักกีฬากอล์ฟชื่อดัง ตกลงเซ็นสัญญาออกแบบปรับปรุงสนามกอล์ฟ 2 แห่งในจีน และยังมีข่าวว่า บับบา วัตสัน มือกอล์ฟอันดับ 3 ของโลก เตรียมร่วมแข่งขันกอล์ฟในจีน

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังทุ่มงบจำนวนมหาศาลแบบเงียบๆ ให้กับนักกีฬากอล์ฟทีมชาติ เพื่อคว้าเหรียญโอลิมปิก

ขอขอบคุณที่มา  http://www.springnews.co.th/