นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ 


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 

          สุรพงษ์ ระบุผลงาน ยิ่งลักษณ์ เยือนต่างประเทศมากกว่า อภิสิทธิ์ ชี้ เป็นนายกฯ รัฐมนตรีที่ทั่วโลกยอมรับ ด้าน อภิสิทธิ์ ตอกกลับ อวดอ้าง-บิดเบือนข้อเท็จจริง

          เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า ช่วงหนึ่งของการประชุม สภาผู้แทนราษฎร นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ได้ลุกขึ้นรายงานผลงานของรัฐบาลในเรื่องการค้าการลงทุน ซึ่งได้อ้างตัวเลขการส่งออกและการเข้ามาลงทุนที่สูงกว่าสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

          โดย นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางไปเยือนประเทศต่าง ๆ 2 ปีครับ 41 ประเทศ มีผู้นำประเทศต่าง ๆ มาเยือนประเทศไทย 30 คน เมื่อเทียบกับสมัยนายอภิสิทธิ์ช่วงเวลา 2 ปี 8 เดือน มีผู้นำต่างชาติมาเยือนและร่วมประชุมต่างประเทศแค่ 20 ประเทศ แต่มีผู้ที่มาเยือนและมีการเจรจาความกันเพียง 8 คนเท่านั้น ที่เหลือเป็นผู้ร่วมประชุม ซึ่งไม่ใช่การเยือน แต่ในสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีผู้นำต่างชาติเดินทางเข้ามาเยือนอย่างเป็นทางการ 22 คน มาเข้าร่วมประชุมอย่างเวิลด์อีโคโนมิคฟอรั่มที่มาจัดเมืองไทย 8 คน ซึ่งจะเเสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีความเเตกต่าง ก็เนื่องจากว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประเทศไหน ก็เป็นที่ยอมรับ

          ทางด้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวชี้แจงกรณีว่า เรื่องการประชุมนานาชาติไม่คิดว่าคนระดับรัฐมนตรีจะไม่กล้าพูดความจริง เพราะการประชุมครั้งนี้เกิดได้เพราะรัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์ การประชุมนานาชาตินั้นมีมากว่า 20 ปีแล้วบริเวณรอบ ๆ ประเทศไทย ฮ่องกง อินเดีย ฯลฯ ในสมัยเป็นรัฐบาลก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะดึงการประชุมนานาชาตินี้มาประชุมในไทย ใช้เวลา 2-3 ปี จนในที่สุดเขาก็ตกลง

          เเต่ผมนึกไม่ถึงครับว่า รัฐมนตรีนอกจากจะไม่บอกความจริงกับประชาชนเเล้วยังมาอวดอ้าง ในทำนองโจมตีรัฐบาลที่เเล้ว ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงตรงกันข้าม การประชุมนานาชาติที่ถามว่าผมเคยไปเสนออะไรไหม ท่านพยายามวาดภาพซึ่งไม่รู้ไปฟังมาจากใครว่า รัฐบาลไทยไม่ได้รับการยอมรับในขณะนั้น ไม่ใช่แล้วครับ ถ้ารัฐบาลไม่ได้รับการยอมรับ ผมก็คงไม่ไปปรากฏตัวที่สหประชาชาติได้ หรือไปเยือนประเทศต่าง ๆ อย่างเป็นทางการได้ ผมยอมรับว่าผมตัดสินใจที่จะไม่เดินทางเยือนหลายประเทศอย่างเป็นทางการ เพราะการเยือนอย่างเป็นทางการใช้เวลามาก ผมตัดสินใจด้วยตัวเองว่า ขณะนั้นผมเห็นว่าปัญหาในประเทศหนักกว่า และต้องดูแลที่นี่ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ทำงานต่างประเทศ

          ถ้าท่านถามว่ามีอะไรเป็นความริเริ่ม ท่านทราบไหมครับ ผมเป็นรัฐมนตรีภายในเดือนแรก ผมเดินทางไปประชุมเวิลด์อีโคโนมิคฟอรั่ม จากการไปแสดงความคิดเห็นในวันนั้น ประธานจี 20 จึงได้ตัดสินใจเชิญผมไปอีกครั้งที่ประเทศอังกฤษ และตัดสินใจให้อาเซียนมีคนเข้าร่วมประชุมจี 20 นี่คือเรื่องจริงครับ แต่ผมไม่ใช่คนชอบมานั่งสาธยายเรื่องเหล่านี้ เพราะผมถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ แต่การมาบิดเบือนข้อเท็จจริงและกล่าวหานั้น มันใช้ไม่ได้ครับ

          ส่วนที่ถามว่าแขกต่างประเทศมาประเทศเราน้อยไหม ผมยอมรับครับว่าน้อย หลังเสื้อแดงบุกประชุมอาเซียนที่พัทยา พวกผมมีปัญหาจริง ๆ นะครับ เพราะเชิญพวกเขามาแล้วไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไร ในทางตรงกันข้าม วันนี้ถามว่าผมร่วมมือกับรัฐบาลในการทำงานไหม หลังน้ำท่วมผมจัดคณะไปญี่ปุ่นช่วยพูดให้ประเทศเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน โดยไม่เกี่ยงว่าเป็นรัฐบาลชุดไหน ซึ่งนี่คือสิ่งที่รัฐมนตรีเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง แล้วก็ไม่พูดความจริงกับประชาชน