เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.  ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์วางระเบิดพลีชีพสามครั้งซ้อนที่มัสยิดในกรุงซานา ประเทศเยเมน เพิ่มเป็นอย่างน้อย 142 ราย ขณะที่กองกำลังรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ประกาศตัวเป็นผู้ลงมือ เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นเหตุที่สังหารเหยื่อจำนวนสูงสุดนับจากมีการโจมตีโดยนักรบจิฮัด ในขณะที่เยเมนเป็นฐานที่ตั้งของอัลไคด้า

 

 เหตุการณ์ดังกล่าวมุ่งเป้าโจมตีสมาชิกกลุ่มฮูติ กลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายชีอะห์สายสุดโต่ง ขณะคนจำนวนมากกำลังทำพิธีละหมาดวันศุกร์  ระเบิดลูกหนึ่งถูกจุดชนวนที่มัสยิดบาดร์ ทางตอนใต้ของกรุงซานา ขณะที่คนร้ายอีกรายระเบิดพลีชีพโจมตีมัสยิดอัล-ฮาชาฮุช ทางตอนเหนือของเมืองหลวง

 

 วันเดียวกัน ประธานาธิบดีอับดราโบ มันซูร์ ฮาดี ผู้นำเยเมน ต้องอพยพออกจากทำเนียบประธานาธิบดีในเมืองเอเดน ทางตอนใต้ หลังมีเหตุโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบ แต่โชคดีสามารถสกัดการยิงได้ด้วยปืนต่อต้านการยิงทางอากาศ โดยทางการย้ำว่านายฮาดีพำนักอยู่ในสถานที่ ที่ปลอดภัยแล้ว และไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่มีกระแสข่าว

 

 ก่อนหน้านี้ เยเมนเผชิญหน้ากับความขัดแย้งรุนแรง ระหว่างกลุ่มฮูติ กับกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล ส่งผลให้เกิดการปะทะนองเลือด โดยกลุ่มฮูติก่อเหตุบุกโจมตีและ ยึดทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงซานาได้สำเร็จเมื่อเดือนม.ค. เพราะไม่พอใจการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแบ่งการปกครองเยเมนออกเป็น 6 รัฐ 

 

 กลุ่มฮูติระบุว่าจะเป็นการแบ่งแยกกลุ่มประชาชนยากจนออกจากกลุ่มคน รวย แต่รัฐบาลปฏิเสธ กลุ่มฮูติจึงก่อเหตุโจมตีต่อเนื่อง หลายครั้ง รวมถึงลักพาตัวนายกรัฐมนตรีคาห์ลิด บาห์ฮา และล่าสุดที่มีการปะทะกับหน่วยรบพิเศษรัฐบาลที่สนามบินเมืองเอเดน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย ส่งผลให้ทางการต้องประกาศปิดน่านฟ้าและยุติให้บริการชั่วคราว

 

 

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์