สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้า กลุ่มชาวนายังคงปักหลักชุมนุมและปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล พร้อมกันนี้กลุ่มชาวนาหาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี ได้นำรถอีแต๋นบรรทุกข้าว 3 คัน มาเสริมเป็นแนวกั้นถนนเพิ่มเติมด้วย โดยแกนนำประกาศว่า เมื่อไม่มีการเจรจาจากฝ่ายรัฐบาล จะทำการยกระดับการชุมนุม โดยจะเริ่มปิดถนนเพชรเกษมสองฝั่ง ทั้งขาขึ้นและขาล่อง และปิดเส้นทางเลี่ยงทางสายรอง โดยมีกลุ่มชาวนา จ.กาญจนบุรี และ จ.นครปฐม มาเพิ่ม ทั้งนี้ จะปิดถนนต่อไปโดยไม่ยอมถอยจนกว่าจะได้เงินจำนำข้าวจากรัฐบาลที่ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้เชิญตัวแทนชาวนา 12 คน เข้าพูดคุย เพื่อเจรจาขอพื้นที่ถนนทางลงใต้คืน 1 เลน แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากแกนนำเห็นว่ายังมีเส้นทางเลี่ยงอีกหลายเส้นทางลงสู่ภาคใต้ได้ ไม่จำเป็นต้องผ่านเข้าหมู่บ้านวังมะนาว และการที่ให้รถวิ่งผ่าน ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเกรงว่าอาจจะไม่ปลอดภัย หากเกิดเหตุร้ายขึ้นใครจะรับผิดชอบ

ต่อมา เมื่อเวลา 11.00 น. มีรายงานว่า มีกลุ่มชาวนาจากจังหวัดนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี ประมาณ 1,200 คน ได้เดินทางตามสมทบกลุ่มชาวนาที่ปิดถนนเพชรเกษม บริเวณใต้สะพานต่างระดับวังมะนาวแล้ว ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เพราะรถที่มาจากกรุงเทพฯ ไม่สามารถผ่านไปจังหวัดเพชรบุรีได้ ต้องเบี่ยงไปเลี้ยวขวาเข้าบ้านมณีลอย แล้วออก ต.ไพรสะเดา อ.ปากท่อ จึงเข้าสู่ ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี หรืออ้อมไปออกที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี แทน

นอกจากนี้ กลุ่มชาวนายังปิดถนนพระราม 2 บริเวณทางเลี่ยงเข้าหมู่บ้านวังมะนาวหมู่ 5 ต.วังมะนาว ซึ่งเดิมใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงที่ให้รถวิ่งลงภาคใต้ได้ ทำให้รถที่มาจากถนนพระราม 2 จะลงใต้ ต้องไปใช้เส้นทางบ้านคลองโคน-ยี่สาร ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม แล้ววิ่งเลียบชายทะเล เข้าสู่ จ.เพชรบุรี แทน โดยการปิดถนนดังกล่าวส่งผลให้การจราจรลงสู่ภาคใต้ติดขัดอย่างหนัก

ทั้งนี้ นายระวี รุ่งเรือง ตัวแทนชาวนา ยืนยันว่า หากตัวแทนรัฐบาลไม่มาเจรจา กลุ่มชาวนาจะปิดถนนไปจนกว่าจะได้เงิน จึงฝากขอโทษผู้ใช้รถใช้ถนนที่เดือดร้อนในครั้งนี้ด้วย แต่ขอให้เห็นใจชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนจริง ๆ และขอให้รัฐบาลรีบลงมาดูแล