ผบ. หน่วย SEAL ยืนยันภาพทหารเรือ กับมือระเบิดอนุสาวรีย์ ไม่เกี่ยวข้องกัน หลังมีภาพแชร์ว่อนโลกไซเบอร์ ขู่เตรียมฟ้อง

จากกรณีที่ชาวเน็ตจำนวนมากได้ส่งต่อภาพชายปริศนาปาวัตถุระเบิดไปในพื้นที่ชุมนุม กปปส. อนุสาวรีย์ชัยฯ โดยระบุว่า เป็นทหารหน่วย SEAL สังกัดกองทัพเรือสัตหีบนั้น ล่าสุด วันนี้ (20 มกราคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผบ.หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ให้สัมภาษณ์ว่า ทหารคนดังกล่าวและคนร้ายปาระเบิดเป็นคนละคนกันอย่างแน่นอน โดยระบุดังนี้

ตามที่มีข่าวว่ากำลังพลของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือมีส่วนเกี่ยวข้อง กับเหตุการณ์ความไม่สงบเป็นชายต้องสงสัยปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 19 มกราคม โดยเนื้อความของข่าวมีความจงใจเชื่อมโยงภาพว่าผู้ต้องสงสัยเป็นกำลังพลของ หน่วย ซึ่งกระผมขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า บุคคลที่ก่อเหตุไม่ใช่กำลังพลของหน่วยบัญชาการพิเศษทางเรือ ตามที่สื่อหลายช่องพยายามเชื่อมโยง ทำให้ประชาชนเกิดความสงสัยเข้าใจผิดมีความสับสนตามที่เป็นอยู่ รวมทั้งข่าวดังกล่าวได้ทำลายชื่อเสียงของหน่วยเป็นอย่างมากด้วย

นอกจากนี้ พล.ร.ต.วินัย กล่าวด้วยว่า จาก ข้อกล่าวหาที่ว่านี้ หน่วยกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง และจะขอแจ้งความเอาผิดทางกฎหมายแก่ผู้ที่กล่าวหาเพื่อไม่ให้เกิดเป็นเยี่ยง อย่างในการใช้ข้อมูลเท็จกล่าวหาผู้อื่นต่อไป กระผมขอยืนยันอย่างบริสุทธิ์ใจ ขอยืนหยัดอยู่ข้างความถูกต้อง และยืนยันว่าหน่วยได้ปฏิบัติตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ไม่สนับสนุน หรือส่งเสริมการกระทำใด ๆ อันจะนำไปสู่ความรุนแรงต่อสาธารณชน กลุ่มผู้ชุมนุม ที่จะเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศชาติ จึงเรียนมาเพื่อโปรดกรุณานำเสนอแก้ข่าว เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและไม่ให้กำลังพลของหน่วยถูกกล่าว หาโดยปราศจากข้อเท็จจริง

ขณะที่ เฟซบุ๊ก ศอ.รส. ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 มกราคม ระบุว่า ห้ามประชาชนเผยแพร่ภาพดังกล่าวอีก มิฉะนั้นอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนร้ายจริง ซึ่งมีข้อความทั้งหมดดังนี้

"ตามที่ปรากฏภาพบุคคลต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดตามเพจต่าง ๆ ขอให้ประชาชนงดโพสต์ภาพ หรือส่งต่อภาพดังกล่าว เนื่องจาก ศอ.รส. ยังไม่มีพยานหลักฐานที่เพียงพอที่จะยืนยันว่าภาพดังกล่าวกับบุคคลที่ ถูกกล่าวอ้างเป็นบุคคลคนเดียวกัน การที่ประชาชนได้ส่งต่อภาพซึ่งทำให้บุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง ทำให้บุคคลนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือเกลียดชัง จะทำให้ผู้ที่ส่งต่อภาพนั้น ๆ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาได้"

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม