เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ เมื่อ Furious 7 ครองอันดับ 1 หนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์ต่อไป เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าช่วงนี้ไม่มีหนังเรื่องไหนฟอร์มใหญ่พอที่จะเบียดพวกเขาให้ตกลงไปได้ ถึงแม้สัปดาห์นี้จะมีหนังใหม่พาเหรดเข้ามาอยู่ในชาร์ตหลายเรื่องก็ตาม โดย Furious 7 เก็บเพิ่มอีก $29.2 ล้าน ทำให้พอนับรายได้แบบทั่วโลก มันทำเงินทะลุ 1 พันล้านเหรียญ ไปเรียบร้อยแบบสบายๆ

  ในสัปดาห์ที่สามของการเข้าฉาย Furious 7 ทำรายได้อีก $29.2 ล้าน ตกลงจากสัปดาห์ก่อน 51% ซึ่งตกเยอะพอประมาณ หากเทียบกับ 2 ภาคก่อนนี้ที่ตก 44% กับ 37% ตามลำดับ แต่ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก เพราะตอนนี้ Furious 7 ทำรายได้ตลาดในประเทศไป $294.5 ล้านแล้ว ยังอยู่ในเส้นทางที่มีโอกาสไปถึงหลัก $350 ล้าน และช่วง 2 สัปดาห์นี้คือช่วงที่จะตัดสิน เพราะจากนั้น Avengers: Age of Ultron จะมาท้าชิงบัลลังก์แล้ว

    ความสุดยอดอีกอย่างของ Furious 7 คือตลาดตางประเทศ เพราะรวมๆ แล้วทั่วโลก Furious 7 กดไป $1.15 พันล้านแล้ว โดยเฉพาะสุดสัปดาห์นี้ หนังทำเงินต่างประเทศอีก $166.9 ล้าน รวมทำไป $857.9 ล้าน และหากตีวงแคบมาแค่ตลาดแดนมังกรจีน ปรากฎว่าหนังทำเข้าฉายมา 8 วัน ทำเงินเพิ่มอีก $88.7 ล้าน รวมฟันไป $245.9 ล้านแล้ว !! และตัวเลข $245.9 เนี่ย แค่ 8 วันเท่านั้น 

    ตอนนี้แทบพูดได้เลยว่าา Furious 7 จะทำเงินในตลาดต่างประเทศเกินพันล้าน นอกจากนี้ ยังมี
โอกาสสูงมากที่ Furious 7 จะทำลายสถิติรายได้สูงสุดในเมืองจีนที่ Transformers: Age of Extinction ทำไว้ $320 ล้าน แต่ก็เหมือนกับภาพรวมในอเมริกาเหนือนั่นแหละคือ พวกเขาต้องเร่งโกยเอาเป็นเอาตายเพราะ Avengers: Age of Ultron ซึ่งในส่วนของเมืองจีน หนังรวมฮีโร่จะเข้าฉายช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
     
    ทีนี้ หันมาพูดถึงความน่าจะเป็น ที่น่าจะเป็นจริงแน่ๆ ในบั้นปลายเกี่ยวกับ Furious 7 ก็คือ อย่างแรก หนังจะทำเงินในตลาดต่างประเทศได้ราวๆ $1.1 ล้านแน่ ส่วนตลาดในอเมริกาเหนือก็น่าจะแตะ $350 ล้าน และ ณ ตอนนั้น Furious 7 จะเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 4 ต่อจาก Avatar, Titanic และ The Avengers แต่...กูรูฟันธงล่วงหน้าว่า มันจะรั้งที่ 4 แป๊บเดียว และจะหล่นไปอยู่อันดับ 5 ทันทีที่ Age of Ultron เข้าฉาย

    มาดูอันดับอื่นๆ กันบ้าง เริ่มที่อันดับสองเป็นหนังใหม่ Paul Blart: Mall Cop 2 หนังคอมเมดี้ภาคต่อของ เควิน เจมส์ ในบทยามอ้วนตุ้ยนุ้ย ที่ภาคแรกโกยเงินสนุกสนาน ประเดิมด้วยรายได้สวยงาม $23.8 ล้าน นับเป็นหนังเปิดตัวดีที่สุดอันดับสองของ หนุ่มเจมส์ ซึ่งอันดับหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องไหนหรอก ก็ภาคแรกนั่นแหละ โดย Paul Blart: Mall Cop กดไป $31.8 ล้าน ตอนเข้าฉายเดือนมกราคม 2009     

    ภาคแรกของ Paul Blart ลงเอยที่ตัวเลข $146.3 ล้าน มากกว่าสัปดาห์เปิดตัวกว่า 4-5 เท่า ดังนั้น พอวิเคราะห์ดูแล้วภาคต่อคงประสบความสำเร็จถึงขนาดนั้นได้ยาก นอกจากนี้ CinemaScore ยังให้แค่เกรด B- ซึ่งจะส่งผลเสียในแง่เสียงวิจารณ์ปากต่อปาก แล้วปัจจัยสุดท้ายคือ ... เจ้าเก่าที่ระรานเค้าไปทั่ว Avengers: Age of Ultron นั่นเอง! ทำให้ Paul Blart: Mall Cop 2 เต็มที่คงสัก $70 ล้าน ซึ่งโอเคแล้ว เพราะทุนไม่เยอะ ราวๆ $30 ล้านเท่านั้น

    อันดับที่สามเป็นหนังสยองทุนต่ำ Unfriended ที่มาพร้อมพลอตเรื่องน่าสนใจ เข้ากับยุคสมัยเกี่ยวกับกลุ่มวัยรุ่นมัธยม 6 คน ที่ได้รับข้อความ Skype จากเพื่อนสาวที่เสียชีวิต จากการฆ่าตัวตายเนื่องจากคลิปหลุด เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ซึ่งจากตอนแรกที่คิดว่าอำกันเล่น แต่ไปๆ มาๆ มันไม่ใช่แบบนั้น จนพวกเขารู้ว่ากำลังรับมือกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่ต้องการพรากชีวิตของพวกเขาไป โดยเนื้อหาจะเล่าผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ของหนึ่งในเด็กสาวผู้ตกเป็นเหยื่อ ในรูปแบบวิดีโอฟุตเทจที่ถูกพบภายหลัง

    Unfriended ประเดิมด้วยรายได้หอมปากหอมคอ $15.8 ล้าน จากการเข้าฉาย 2,739 โรง นับเป็นหนังสยองขวัญที่เปิดตัวอลังการสุดนับตั้งแต่ The Conjuring เมื่อเดือน ก.ค. 2013 โดยเฉพาะหากมองจากความพยายามทำการตลาดแบบพิเป็นพิธีของทาง Universal แต่ถึงกระนั้น ด้วยคะแนน C จาก CinemaScore และเรตที่ม่ค่อยดีนักจากเว็บวิจารณ์หนังมะเขือเน่า Rotten Tomatoes ก็เป็นที่คาดหมายได้ว่า รายได้ในอนาคตคงตกลงๆๆ  และสุดท้ายแล้วน่าจะจบที่ $40 ล้าน   

    ไล่ดูอันดับอื่นๆ แบบเร็วๆ Home (2015) หนังแอนิเมชั่นจาก DreamWorks รั้งอันดับที่ 4 เก็บเพิ่ม $10.6 ล้าน รวมตอนนี้สอยไป $142.9 ล้านแล้ว อยู่ในระดับเดียวกับ The Croods ในช่วงเวลาเดียวกัน ต่อด้วยอันดับ 5 เป็นหนังรักโรแมนติกหวานหยาดเยิ้ม The Longest Ride จากหนังสือของ นิโคลัส สปาร์ค นำแสดงโดย บริตต์ โรเบิร์ตสัน กับ สกอตต์ อีสต์วู้ด ลูกชายหล่อลากดินของ ปู่คลิ้นท์ เก็บเพิ่ม $7 ล้าน รวม 2 สัปดาห์ทำรายได้แล้ว $23.7 ล้าน 

    Monkey Kingdom หนังแนวสารคดีของ Disneynature เกี่ยวกับชีวิตลิงจ๋อที่ใช้ชีวิตอยู่ในซากปรักหักพังของเมืองโบราณในป่าโปโลนนารุวะ (Polonnaruwa) ที่ ศรีลังกา เปิดตัวอันดับ 8 ด้วยรายได้ $4.58 ล้าน ซึ่งน่าผิดหวังในแง่ของตัวเลขเทียบกับจำนวนโรงฉายกว่า 2,012 โรง แต่อาจได้กระแสจากวัน Earth Day (พุธนี้) ช่วยกระตุ้นบ้างนิดหน่อย ดูแล้วยังพอมีโอกาสที่ Monkey Kingdom จะไปจบที่ $15 ล้าน

    ด้าน Woman in Gold ขยายจำนวนโรงฉายเป็น 2,011 โรง เก็บเพิ่มอีก $4.6 ล้าน อยู่ที่ 7 ทำรายได้ไปแล้ว $15.95 ล้าน และน่าจะไปได้แบบเรื่อยๆ เรียกว่าเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามของ Weinstein Company ขณะที่ True Story หนังดราม่าที่มี โจนาห์ ฮิลล์ นำแสดงกับ เจมส์ ฟรังโก้ เกี่ยวกับอดีตคอลัมนิสต์ นิวยอร์คไทม์ กับ บุคคลที่ เอฟบีไอ ต้องการตัวมากที่สุด หนังเปิดตัว $1.95 ล้าน และน่าจะไปจบที่ $5-$7 ล้าน

    ทิ้งท้ายด้วย Child 44 หนังใหม่อีกเรื่อง ของผู้กำกับ ดาเนี่ยล เอสปิโนซ่า (Safe House) ที่มี ริดลี่ย์ สกอตต์ นั่งเก้าอี้โปรดิวเซอร์ นำแสดงโดย ทอม ฮาร์ดี้ และ แกรี่ โอลด์แมน เกี่ยวกับฆาตรกรฆ่าต่อเนื่องของ อดีตสหภาพโซเวียต เข้าฉาย 510 โรง และรายได้แย่เกินความคาดหมาย เพียง $621,812 ทำให้พอคาดการณ์ได้ว่า หนังคงอายุสั้น และมีอายุอยู่ไม่ทันได้ดูความสำเร็จของ Avengers: Age of Ultron ที่จะเปิดตัว 1 พ.ค. นี้ แหงๆ

http://www.siamdara.com