Give Up Tomorrow สารคดีชีวิตที่ความยุติธรรมยังมาไม่ถึง
2013-09-25 14:49:20
Advertisement
คลิก!!!

เนื่องด้วยในวันที่ 10 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันยุติโทษประหารชีวิตสากล (World Day against the Death Penalty) ที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความเข้าใจเรื่องโทษประหารชีวิตซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ได้แก่ สิทธิในการมีชีวิต ทั้งยังเป็นการทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง

          แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมกับ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จึงได้จัดภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Give Up Tomorrow ขึ้น เพื่อถ่ายทอดประเด็น "การใช้โทษประหารชีวิต" และ "กระบวนการยุติธรรม" ผ่านภาพยนตร์พร้อมชมบทสัมภาษณ์ ไมเคิล คอลลินส์ ผู้กำกับ และ มาร์ตี้ ไซจูโค ผู้อำนวยการสร้าง ในวันที่ 10 ตุลาคม 2556 เวลา 18.00 น. ณ โรงภาพยนตร์ลิโด้ สยามสแควร์ กรุงเทพฯ

          Give Up Tomorrow ภาพยนตร์สารคดีที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารางวัลเอ็มมี สาขาสารคดียอดเยี่ยม ประจำปี 2556 เป็นสารคดีที่ใช้เวลาผลิตนานถึงเจ็ดปี ที่ติดตามคดีสะเทือนขวัญในเกาะเซบู ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เมื่อพี่น้องสองสาวได้หายตัวไปและหนึ่งในนั้นถูกพบศพถูกโยนลงไปในหุบเหวกลางป่า สภาพร่างกายเน่าอืดบอบช้ำและมีร่องรอยของการข่มขืน ในขณะที่อีกหนึ่งคนนั้นยังไร้ร่องรอยจนถึงทุกวันนี้ คดีนี้ได้ขึ้นหน้าหนึ่งและเป็นที่สนใจของผู้คนและสื่อมวลชนที่เรียกร้องให้ตามจับคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นทางการก็ได้ผู้ต้องสงสัยเจ็ดคน ทั้งสื่อและผู้คนที่ติดตามคดีนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าในที่สุดความยุติธรรมก็มาถึง ผู้ร้ายที่ข่มขืนเด็กสาวผู้ใสซื่อกำลังจะได้ชดใช้กรรม

          ปาโก้ ลาร์รานากา จำเลยและตัวละครหลักของเรื่องที่ถูกสื่อหยิบมาใช้อย่างสนุกมือ ด้วยลุคแบบเด็กรวยแบดบอยที่เป็นไปได้ว่าสามารถมีสมุนรายล้อม ประกอบกับครอบครัวของเขายังมีความเกี่ยวพันกับตระกูลนักการเมือง แม้จะเป็นเพียงญาติห่าง ๆ แต่สื่อมวลชนก็หยิบเรื่องนี้มาเป็นจุดขาย ถึงแม้มีพยานมากกว่า 30 ปากพร้อมยืนยันหลักฐานที่อยู่ว่าวันเกิดเหตุเขาเข้าเรียนและไปปาร์ตี้กับมิตรสหายที่กรุงมะนิลา ซึ่งหากจากเกาะเซบูนับร้อยกิโลเมตร ไม่สามารถเดินทางไปกลับแบบวันต่อวันได้ (เพราะเขาอยู่กับเพื่อนสองวันติด คือวันที่เกิดเหตุและหนึ่งวันหลังจากนั้น) แต่พยานเหล่านี้กลับไม่มีน้ำหนักเพียงพอในศาล

          Give Up Tomorrow ถือเป็นสารคดีที่เศร้าและสิ้นหวังที่สุดเรื่องหนึ่ง ที่เสนอภาพกว้างของกระบวนการยุติธรรมที่ถูกบิดเบือน ไม่ใช่จากระบบศาลเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงสื่อมวลชนและระบบระหว่างประเทศด้วย ที่ต่างหลงลืมเป้าหมายสำคัญของ "ความยุติธรรม" จนถึงบัดนี้ จำเลยทั้งหมดยังคงต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองต่อไป ถึงแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานเกินทศวรรษแล้วก็ตาม 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X